GoPro เปิดตัว HERO12 Black ที่ราคา 14,900 บาท พร้อมอัพเกรดแบตเตอรี่ ให้ใช้ได้ยาวนานขึ้น 2 เท่า ถ่ายวิดีโอ HDR ในความละเอียด 5.3K และ 4K การรองรับเสียงแบบไร้สายสำหรับ Apple AirPods และอุปกรณ์ Bluetooth อื่น ๆ พร้อมฟีเจอร์ใหม่อีกมากมาย

7 กันยายน 2566

           GoPro (NASDAQ: GPRO) ประกาศเปิดตัวกล้องแอคชั่นแคม HERO12 Blackรุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นการยกระดับมาตรฐานอีกครั้งสำหรับกล้องที่มีขนาดเล็ก ทนทาน และสามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้น เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของโกโปร

           กล้องแอคชั่นแคมตัวใหม่ล่าสุดจาก GoPro เตรียมวางจำหน่ายที่ราคา 14,900 บาท โดย GoPro รุ่นล่าสุดนี้ยกระดับประสิทธิภาพจากกล้องรุ่นก่อน โดยให้ผู้ใช้งานสามารถบันทึกได้ต่อเนื่องยาวนานขึ้นถึง 2 เท่า อันเป็นผลลัพธ์จากระบบการจัดการของแบตเตอรี่ที่ออกแบบขึ้นใหม่ รวมถึงฟังก์ชันการบันทึกวิดีโอที่มาพร้อมกับ high dynamic range (HDR) เพื่อบันทึกวิดีโอความละเอียด 5.3K และ 4K ได้ยอดเยี่ยมที่สุด ทั้งยังรองรับอุปกรณ์เสียง Bluetooth เช่น Apple AirPods พ่วงด้วยระบบลดการสั่นไหว HyperSmooth 6.0 ที่ถูกยกระดับสมรรถนะให้สูงขึ้น ยังไม่รวมถึงฟีเจอร์ใหม่ๆ อันทรงพลังมากมายที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานทั้งสำหรับผู้ใช้มือใหม่และมืออาชีพ

            ความสามารถใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นของ HERO12 Black คืออุปกรณ์เสริม Max Lens Mod 2.0 ซึ่งช่วยขยายขอบเขตการมองเห็นที่กว้างที่สุดที่เคยมีมาถึง 177 องศา และมอบผลลัพธ์วิดีโอความละเอียดสูงถึง 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที นอกจากนี้ Max Lens Mod 2.0 ยังสามารถจับภาพวิดีโอและภาพนิ่งได้ผ่านการตั้งค่าขอบเขตการมองเห็นถึงสามแบบ ได้แก่ Max Wide, Max SuperView และใหม่ล่าสุด Max HyperView พร้อมด้วยเซ็นเซอร์ถ่ายภาพแบบ 8:7 ช่วยให้ขอบเขตการมองเห็นกว้างขึ้นถึง 36% สำหรับการบันทึกแบบจอกว้าง และกว้างขึ้น 48% สำหรับการบันทึกภาพในแนวตั้ง เมื่อเทียบกับเลนส์มาตรฐานของ HERO12 Black ผลลัพธ์ที่ได้จึงเหมาะสมที่สุดสำหรับการบันทึกทุกช่วงเวลา ตั้งแต่การบันทึกแบบ POV ให้ความรู้สึก “เหมือนเราอยู่ตรงนั้นจริงๆ” ในขณะที่ผู้ใช้งานกำลังเล่นกีฬา หรือทำกิจกรรมเคลื่อนไหวต่างๆ ที่ตนเองชื่นชอบ ไปจนถึงการดื่มด่ำกับธรรมชาติและบรรยากาศชวนฝันขณะเดินทางผจญภัยกับเพื่อนและครอบครัว Max Lens Mod 2.0 ยังมาพร้อมกับกระจกที่ทนทานต่อรอยขีดข่วนมากกว่ารุ่นก่อนถึง 2 เท่า พร้อมด้วยฝาครอบเลนส์แบบไล่น้ำสุดทนทาน เพื่อให้คุณพร้อมลุยได้ในทุกสถานการณ์

            นิโคลัส วูดแมน ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง GoProเผยว่า “HERO12 Black รีเซ็ตมาตรฐานใหม่แห่งการบันทึกภาพที่สมจริง กับกล้องตัวใหม่ของเรา ถือเป็นสุดยอดของการสั่งสมประสบการณ์ตลอด 21 ปีของ GoPro  และแพสชั่นของเราในการช่วยให้คุณบันทึกและแชร์ความทรงจำดีๆ แบบสมจริงและชวนฝัน ซึ่งจะทำให้คุณและคนที่เห็นรู้สึกเหมือนกับว่าคุณกลับไปอยู่ ณ ช่วงเวลานั้นอีกครั้ง และได้ย้อนเวลากลับไปสัมผัสประสบการณ์ดีๆ ผ่านภาพความละเอียดที่คมชัด”

            HERO12 Black มาพร้อมกับความสามารถระดับมืออาชีพใหม่ๆ ซึ่งล้วนเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ทั่วไปด้วยการออกแบบที่ใช้งานง่ายและสะดวกสบาย:
             • รองรับการเชื่อมต่อเสียงแบบไร้สายสำหรับหูฟัง Apple AirPods และอุปกรณ์เสียง Bluetooth อื่นๆ เช่น หูฟัง เฮดโฟน และไมโครโฟน จึงเหมาะสำหรับการทำวิดีโอบล็อก การบรรยายฉาก และการออกคำสั่งเสียงเพื่อควบคุม HERO12 Black ของคุณจากระยะไกล
            • GP-Log พร้อม LUT ที่พร้อมใช้งานเพื่อการควบคุมและการไล่ระดับสีที่ลื่นไหลมากขึ้นในขั้นตอนโพสต์โปรดักชัน
            • ซิงค์ HERO12 Black แบบไม่จำกัดจำนวนกล้อง ด้วย timecode เดียวกัน เพื่อช่วยให้การตัดต่อจากกล้องหลายเครื่องง่ายดายยิ่งขึ้น โดยใช้งานได้กับ Final Cut Pro, Adobe Premier และซอฟต์แวร์ตัดต่ออื่นๆ
            • การเข้ารหัสที่ปรับให้เหมาะสม ช่วยให้ขนาดไฟล์เล็กลงโดยไม่กระทบต่อความละเอียดของไฟล์ภาพ

            นอกจากนี้ สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปที่อาจมองหาการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความสะดวกสบายและการควบคุมได้ มั่นใจได้ว่าจะต้องชื่นชอบ user interface ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ของ HERO12 Black ซึ่งมอบการควบคุมที่ง่ายขึ้น พร้อมด้วย Vertical Capture Mode ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายวิดีโอแนวตั้งในอัตราส่วน 9:16 ได้แม้ในขณะที่กล้องติดตั้งในแนวนอน เหมาะสำหรับการแชร์วิดีโอแนวตั้งไปยังโซเชียลมีเดียแบบง่ายๆ ไม่มีสะดุด

            นอกจากนี้ GoPro ยังขยายประสบการณ์ด้านซอฟต์แวร์และสิทธิประโยชน์ของสมาชิก GoPro ด้วยการเปิดตัวแอป Quik สำหรับเดสก์ท็อป ซึ่งจะมีให้บริการเฉพาะสมาชิก GoPro เท่านั้น โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดย Quik สำหรับเดสก์ท็อป นำความเร็วและความสะดวกสบายของแอป Quik บนโทรศัพท์มือถือมาสู่ผู้ใช้เดสก์ท็อป แต่อัดแน่นด้วยฟีเจอร์และความสามารถเพิ่มเติมที่ใช้ประโยชน์จากพลังการประมวลผลและขนาดหน้าจอของคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป โดยแอป Quik บนโทรศัพท์และเดสก์ท็อป สามารถซิงค์กันได้ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถตัดต่องานได้ในแอปเดียว โดยสามารถสลับแพลตฟอร์มในการใช้งานได้อย่างราบรื่นไม่มีสะดุด แอป Quik สำหรับเดสก์ท็อป จะพร้อมให้บริการสำหรับเดสก์ท็อป Mac ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน และ Windows ภายในปี พ.ศ. 2567

สำหรับในประเทศไทย การวางจำหน่าย GoPro HERO12 Black ราคา 14,900 บาท HERO12 Black Creator Edition ราคา 22,900 บาท และ Max Lens Mod 2.0 ราคา 3,800 บาท พร้อมให้สั่งซื้อล่วงหน้าวันที่ 13 กันยายน 2566 ที่ช่องทาง online ของตัวแทนจำหน่ายกล้องโกโปรอย่างเป็นทางการบน และวันที่ 14 กันยายน 2566 ขายพร้อมกันทั่วประเทศไทย ณ ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/GoProThailand

             หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแอป Quik สำหรับเดสก์ท็อปที่กำลังจะเปิดตัว สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ GoPro.com/news

ข้อมูลทั่วไป

            GoPro HERO12 Black นำการออกแบบที่ทนทานและผ่านการพิสูจน์แล้วของ GoPro มายกระดับไปอีกขั้นด้วยประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม และการอัพเกรดการใช้งานเพื่อมอบกล้อง HERO ที่มีความสามารถและใช้งานได้สะดวกที่สุดเท่าที่เคยมีมา:

• ใช้งานได้ยาวนานขึ้นสูงสุด 2 เท่า: ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ที่พัฒนาขึ้นอย่างน่าเหลือเชื่อ ช่วยให้สามารถบันทึกวิดีโอต่อเนื่องได้ 70 นาที ที่ความละเอียด 5.3K60 (การตั้งค่าประสิทธิภาพสูงสุดของ HERO12 Black) และบันทึกได้ยาวนานกว่า 1.5 ชั่วโมงที่ความละเอียด 5.3K30 และ 2.5 ชั่วโมงที่ 1080p30 เมื่อเปิดใช้ระบบลดการสั่นไหว HyperSmooth 6.0
  •วิดีโอและภาพถ่าย High Dynamic Range (HDR): HDR ช่วยยกระดับระดับคุณภาพของภาพสำหรับภาพถ่าย และวิดีโอที่ความละเอียด 5.3K และ 4K
  •ความละเอียดเหนือชั้นที่ 5.3K และ Slo-Mo สูงสุดถึง 8 เท่า: วิดีโอ 5.3K มอบความละเอียดของภาพมากกว่า 4K ถึง 91% และมากกว่า 1080p ถึง 665% แถมยังให้คุณสามารถบันทึกวิดีโอแบบ Slow-Mo ได้สูงสุด 8 เท่า ที่ความละเอียดสูงสุดถึง 2.7K หรือจะเลือกภาพนิ่งที่ความละเอียด 24.7 megapixel ขณะถ่ายภาพความละเอียด 27 megapixel หรือจะบันทึกวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดถึง 4K120 แบบ Slow-Mo ได้สูงสุด 4 เท่า ก็สามารถทำได้
  •มุมมองกว้างไกลไม่มีใครเทียมด้วยอุปกรณ์เสริม Max Lens Mod 2.0: ด้วยขอบเขตการมองเห็นที่กว้างขึ้นถึง 36% สำหรับการบันทึกแบบจอกว้าง และกว้างขึ้น 48% สำหรับการบันทึกภาพในแนวตั้ง มาพร้อมกับกระจกที่ทนทานต่อรอยขีดข่วนมากถึง 2 เท่า พร้อมด้วยฝาครอบเลนส์แบบไล่น้ำสุดทนทาน
  •GP-Log และ LUT ที่รองรับ: GP-Log มาพร้อมกับ Look Up Tables (LUTs)ที่หลากหลาย ช่วยให้ช่างภาพมืออาชีพสามารถดึงรายละเอียดในภาพวิดีโอได้มากขึ้นในขณะที่ปรับแต่งสีในขั้นตอนโพสต์โปรดักชัน
  •รองรับการเชื่อมต่อเสียงแบบไร้สายสำหรับหูฟัง Apple AirPods และอุปกรณ์เสียง Bluetooth^âอื่นๆ: ผู้ใช้งานสามารถบันทึกเสียงไปยัง HERO12 Black ได้โดยตรงจากอุปกรณ์ Bluetooth เช่น หูฟัง Apple AirPods รวมถึงหูฟังอื่นๆ เฮดโฟน และไมโครโฟน จึงเหมาะสำหรับการทำวิดีโอบล็อก การบรรยายฉาก และการออกคำสั่งเสียงเพื่อควบคุม HERO12 Black จากระยะไกล
  •ระบบลดการสั่นไหวที่การันตีด้วยรางวัล Emmy พร้อมการล็อกแนวเส้นขอบฟ้า 360 องศา:HyperSmooth 6.0 มาพร้อมกับการยกระดับสมรรถนะ AutoBoost ที่ช่วยลดการสั่นไหวของภาพวิดีโอแบบอัตโนมัติ พร้อมกับการตัดภาพที่น้อยที่สุดและไหลลื่นที่สุดจนแทบไม่สังเกตเห็น นอกจากนี้ HyperSmooth 6.0 ยังมาพร้อมกับเลนส์ดิจิตัล Linear + Horizon Lock ที่ทำให้วิดีโอนิ่งแม้ว่าจะหมุนกล้อง 360 องศาขณะถ่าย หรือสามารถตั้งค่าเลนส์ทั้งหมดได้ด้วยการติดตั้ง Max Lens Mod 2.0
  •อัตราส่วน 8:7 ที่ครบครัน: เซ็นเซอร์ 1/1.9” ช่วยให้ขอบเขตการมองเห็นกว้างอย่างที่ไม่เคยเป็น ด้วยอัตราส่วนภาพ 8:7 ที่กว้างเป็นพิเศษ ซึ่งสามารถตัดเป็นอัตราส่วนภาพแนวตั้ง 9:16, จอไวด์สกรีน 16:9, 4:3 แบบดั้งเดิม หรืออัตราส่วนภาพฟูลเฟรม 8:7 ได้ โดยสามารถใช้งานได้กับทุกความละเอียดของวิดีโอ รวมถึง TimeWarp, Time Lapse, Night Lapse และโหมด Night Effects ทั้งหมด
  •การตั้งค่าเลนส์มุมกว้างเป็นพิเศษ HyperView เอกสิทธิ์เฉพาะของ GoPro: เลนส์ดิจิตัล HyperView ของ HERO12 Black สร้างมาตรฐานใหม่สำหรับวิดีโอมุมกว้างแบบสมจริง ซึ่งผู้ใช้งานสามารถขยายมุมให้กว้างขึ้นได้อีกเมื่อใช้ Max HyperView ร่วมกับ Max Lens Mod 2.0
  •โหมดถ่ายภาพแนวตั้งใหม่: ถ่ายวิดีโอแนวตั้งด้วย HERO12 Black แม้จะติดตั้งในแนวนอน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการแชร์ลงโซเชียลมีเดียที่รองรับวีดีโอแนวตั้งได้ทันที
  •การควบคุมกล้องที่ง่ายขึ้น: “Easy Controls” ได้รับการอัปเดต สำหรับผู้ใช้งานที่มองหาความสะดวกสบายสูงสุด และ “Pro Controls” ที่ได้รับการปรับปรุงสำหรับผู้ใช้งานมืออาชีพที่มองหาการควบคุมและประสิทธิภาพสูงสุด
  •ฟีเจอร์ Night Effects สำหรับภาพนิ่ง: ฟีเจอร์ Light Painting, Vehicle Light Trails และ Star Trails มอบการถ่ายภาพระดับมืออาชีพได้อย่างง่ายดายเพียงแค่กดปุ่ม
  •Power Tools ใหม่ล่าสุด: Interval Photo ถูกผนวกเข้ากับชุด Power Tools เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายวิดีโอและภาพนิ่งได้ด้วยวิธีที่ไม่เหมือนใคร Interval Photo ช่วยให้สามารถถ่ายภาพตามช่วงเวลาที่กำหนดเองได้ ตั้งแต่ทุกๆ 0.5 วินาที ไปจนถึงทุกๆ 120 วินาที
  •Timecode Sync:ซิงค์กล้อง HERO12 Black ได้ไม่จำกัดจำนวนเพื่อช่วยให้การตัดต่อจากกล้องหลายเครื่องง่ายดายยิ่งขึ้น สามารถใช้งานร่วมกับ Final Cut Pro, Adobe Premier และซอฟต์แวร์ตัดต่ออื่นๆ ได้
  •ขายึดแบบ 1/4-20: ขายึดของ HERO12 Black มาพร้อมกับตัวเลือกแบบ 1/4-20 ช่วยเพิ่มตัวเลือกเพื่อให้ HERO12 Black ใช้งานได้กับขายึดกล้องและอุปกรณ์เสริมมาตรฐาน
  •การอัปโหลดอัตโนมัติไปยังคลาวด์ การแก้ไขอัตโนมัติ  และการสำรองข้อมูลแบบไม่จำกัด: สำหรับสมาชิก GoPro กล้อง HERO12 Black สามารถอัปโหลดไฟล์ภาพและวิดีโอล่าสุดของคุณไปยังบัญชี GoPro Cloud ของคุณโดยอัตโนมัติในขณะที่เสียบสายชาร์จ และคุณจะได้รับวิดีโอไฮไลต์อัตโนมัติหลังจากการอัปโหลดเสร็จสิ้น ไม่มีการจำกัดจำนวนฟุตเทจ GoPro ที่คุณสามารถอัปโหลดไปยังบัญชีคลาวด์ GoPro ของคุณ และวิดีโอทั้งหมดจะถูกจัดเก็บตามคุณภาพแหล่งที่มาแบบ 100 เปอร์เซ็นต์
  •ทนทาน อเนกประสงค์ และเชื่อถือได้: HERO12 Black สามารถกันน้ำได้ลึกถึง 33 ฟุต โดยไม่ต้องมีอุปกรณ์เพิ่มเติม และถูกสร้างมาแบบ "GoPro Tough" เพื่อความทนทานที่มากขึ้น

ด้ามยึดกล้องตัวใหม่ พร้อมรีโมทชัตเตอร์กันน้ำ

            GoPro เตรียมเปิดตัวด้ามยึดกล้องความยาว 48 นิ้ว ที่สามารลดระดับความยาวลงมาได้ถึง 10 นิ้ว และได้รับการออกแบบให้ใช้งานร่วมกับขายึด 1/4-20 ตัวใหม่ ของ HERO12 Black ได้ พ่วงมาพร้อมกับที่จับกล้อง เพื่อการใช้งานร่วมกับกล้อง GoPro ทุกรุ่น

             อีกหนึ่งความพิเศษคือ รีโมตชัตเตอร์ Bluetooth แบบกันน้ำที่ถอดออกได้ สวมใส่ได้ ซึ่งช่วยให้ควบคุมชัตเตอร์ของ HERO12 Black ได้ง่ายแม้ว่าจะยืดด้ามยึดกล้องออกจนสุดก็ตาม รีโมตใหม่ที่แสนสะดวกสบายนี้สามารถใช้งานร่วมกับกล้อง HERO12 Black, HERO11 Black, HERO11 Black Mini และ HERO10 Black

             ด้ามยึดกล้องตัวใหม่ และรีโมทชัตเตอร์กันน้ำ จะพร้อมวางจำหน่ายในเดือนตุลาคม 2566