สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ร่วมกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตเเห่งประเทศไทย และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา จัดงานเเข่งขันรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดัดเเปลงเพื่อธุรกิจแห่งอนาคตครั้งที่ 2 พร้อมสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรด้านยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมยานย

21 พฤษภาคม 2566
สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) ร่วมกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา จัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงเพื่อธุรกิจแห่งอนาคต EVAT x EGAT Electric Motorcycle Conversion Contest for Business Opportunity ในระหว่างวันที่ 19 - 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 โดยมีนาย กฤษฎา อุตตโมทย์ นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย, คุณเกษณภา มหารัตนวงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารด้านการใช้ไฟฟ้าและกิจการเพื่อสังคม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และผศ.น.สพ.ดร. เสรี กุญแจนาค รองอธิการบดีวิทยาเขตศรีราชา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พร้อมด้วยหน่วยงานพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง ได้เเก่ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย, บริษัทกรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน), สำนักงานสภานโยบายวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ (สอวช.), การไฟฟ้านครหลวง, บริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด, บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ซันเดย์ อินส์ จำกัด เข้าร่วมงาน ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา จ.ชลบุรี รวมถึงกรมการขนส่งทางบกที่ได้ให้ความสนับสนุน ให้ข้อมูลกับทีมผู้เข้าแข่งขันด้านการรับรองแบบและการจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง เพื่อให้ครอบคลุมมาตรฐานด้านความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า

| 
 (ภาพหมู่ผู้ที่ได้รับรางวัลประเภทสถาบันการศึกษา)  | 
โดยการแข่งขันครั้งนี้มีผู้เข้าแข่งขันรวมทั้งสิ้น 57 ทีม แบ่งเป็นทีมประเภทสถาบันการศึกษา 48 ทีม และเป็นทีมประเภทบุคคลทั่วไป 9 ทีม ซึ่งผลการแข่งขันฯ ประเภทกลุ่มสถาบันการศึกษา รางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่ง ได้แก่ ทีม S11 uttc auto team จากวิทยาลัยเทคนิคอุตรดิตถ์ ได้รับถ้วยรางวัล พร้อมเงินรางวัลจำนวน 100,000 บาท รองชนะเลิศอันดับหนึ่ง ได้แก่ ทีม S57 UTK-EV Conversion จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 50,000 บาท และรองชนะเลิศอันดับสอง ได้แก่ ทีม S48 ขุนพล Ev bike จากวิทยาลัยการอาชีพขุนพล ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 30,000 บาท
 
 
| 
 (ภาพหมู่ผู้ที่ได้รับรางวัลประเภทบุคคลทั่วไป)  | 
ส่วนประเภทกลุ่มประชาชนทั่วไป รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีม G02 Black Maeta ได้รับถ้วยรางวัล พร้อมเงินรางวัลมูลค่า 100,000 บาท รองชนะเลิศอันดับหนึ่ง ได้แก่ ทีม G07 T2D ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 50,000 บาท เเละรองชนะเลิศอันดับสอง ได้แก่ ทีม G05 Moto bike ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 30,000 บาท

| 
 (ภาพหมู่ผู้ที่ได้รับรางวัลนวัตกรรม ในหัวข้อ ตัวถัง/สวิงอาร์ม Swing Arm)  | 
นอกจากนี้ยังมีรางวัลนวัตกรรมสำหรับทีมที่พัฒนาเทคโนโลยีขึ้นมาเป็นการเฉพาะและสามารถพัฒนาต่อยอดเชิงพาณิชย์ได้ เช่น แบตเตอรี่ขับเคลื่อนแบบถอดสลับได้ (Swappable Battery) มอเตอร์ขับเคลื่อน/ระบบควบคุม (Motor and Controller) รวมถึงเครื่องอัดประจุ (On-board Charger) และตัวถัง/สวิงอาร์ม Swing Arm (Body and Swing Arm) ซึ่งผู้ชนะในรางวัลนวัตกรรม ได้เเก่ ทีม S57 UTK-EV Conversion จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 30,000 บาท



| 
 (ภาพบรรยากาศการแข่งขัน)  | 
ในการเเข่งขันครั้งนี้ มีการเก็บคะแนนเป็นระบบ Checkpoint ต่างๆ ก่อนเข้าสู่สนามแข่งขัน จำนวนทั้งหมด 4 Checkpoint เพื่อให้แต่ละทีมนำส่งรายงานการออกแบบ รายงานการทดสอบด้านเทคนิค ฯลฯ เพื่อเก็บคะแนนก่อนเริ่มการแข่งขันภาคสนามวันที่ 19 พค. ซึ่งเป็นวันแรกของการแข่งขัน โดยเเบ่งออกเป็น 4 สถานีหลัก ได้เเก่ สถานีทดสอบอัตราเร่ง สถานีทดสอบอัตราเร่งและวัดอัตราสิ้นเปลืองพลังงาน สถานีทดสอบขึ้นทางลาดชันและวัดอัตราสิ้นเปลืองพลังงาน และสถานีทดสอบระยะการเบรค ส่วนการแข่งขันในวันที่ 20-21 พค. เป็นการทดสอบวิ่งรอบสนามแข่งขันรอบใหญ่ระยะทาง 2.4 กม. ต่อรอบ ผ่านสถานีต่างๆ เช่นสถานี Slalom และสถานีลูกระนาด จากนั้นจึงทำการวัดค่าพลังงานที่ใช้ไป และนำคะแนนมาคำนวณร่วมกับคะแนนที่ได้จากการนำเสนอแผนงานทางธุรกิจและต้นทุนการดัดแปลงรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อคัดเลือกหาทีมที่ได้คะแนนดีที่สุดตามลำดับ

| 
 (คุณเกษณภา มหารัตนวงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารด้านการใช้ไฟฟ้าและกิจการเพื่อสังคม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.))  | 
คุณเกษณภา มหารัตนวงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารด้านการใช้ไฟฟ้าและกิจการเพื่อสังคม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เผยว่า “กฟผ. ได้สนับสนุนกิจกรรมการเเข่งขันรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงเพื่อธุรกิจเเห่ง อนาคต ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 แล้ว โดยเล็งเห็นว่ากิจกรรมดังกล่าวเป็นประโยชน์ ต่อเยาวชน และประชาชนทั่วไป ในการตระหนัก รับรู้ ถึงปัญหาสภาวะแวดล้อมของโลก ซึ่งสอดคล้องกับการดำเนินภารกิจผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. ที่มุ่งเน้นการพัฒนาพลังงานสะอาด และส่งเสริมการลดมลภาวะทางอากาศ โดยสนับสนุนให้เกิดโครงการ และกิจกรรมที่เกี่ยวกับธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า ในหลายโครงการ อาทิ ส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า และสถานีอัดประจุไฟฟ้ามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ ปี 2559 ส่งเสริมระบบนิเวศและโครงสร้างพื้นฐานรองรับการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าตามนโยบายของประเทศ สำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า กฟผ. ได้ดำเนินการติดฉลากเบอร์ 5 ให้กับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการกว่า 20 ราย ติดฉลากไปแล้วกว่า 35,000 ดวง นอกจากนี้ ยังได้พัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเบอร์ 5 แบรนด์
ENGY สำหรับใช้ในกิจการของ กฟผ. กว่า 50 คัน พร้อมขยายผลไปสู่การนำร่องใช้งานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารับจ้างสาธารณะรวมกว่า 100 คัน พร้อมสถานี Swapping Battery Station กว่า 10 สถานี ในพื้นที่อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี และเขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร สำหรับกิจกรรมที่จัดขึ้นในครั้งนี้ นับเป็นการสนับสนุนการดัดแปลงรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าให้มีสมรรถนะการใช้งานและมีประสิทธิภาพพลังงานที่ดี มีความปลอดภัยสอดคล้องตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเป็นการส่งเสริมการพัฒนาทักษะ สร้างอาชีพการดัดแปลงและซ่อมบำรุงรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าให้กับคนไทย เพื่อขยายผลรองรับอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่อีกทางหนึ่ง”

| 
 (ผศ.น.สพ.ดร. เสรี กุญแจนาค รองอธิการบดีวิทยาเขตศรีราชา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ )  | 
ผศ.น.สพ.ดร. เสรี กุญแจนาค รองอธิการบดีวิทยาเขตศรีราชา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เผยว่า มีความยินดีที่ได้มีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงเพื่อธุรกิจแห่งอนาคต ร่วมกับสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย เพื่อสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรและเป็นการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ ลดปัญหา PM2.5 อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ทางมหาวิทยาลัยได้ร่วมส่งทีมนิสิตเข้าแข่งขันในครั้งนี้ด้วยจำนวนสองทีมจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ศรีราชา ซึ่งสอดรับกับมหาวิทยาลัยที่มีนโยบายสนับสนุนกิจกรรมที่ส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม โดย ดร.จงรัก วัชรินทร์รัตน์ (อธิการบดี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) ในการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์สู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) อย่างมีส่วนร่วมภายในปี 2035 นอกจากการส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรในด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าแล้ว มหาวิทยาลัยยังให้การสนับสนุนการบริการทดสอบอุปกรณ์หลักของยานยนต์ไฟฟ้าให้เป็นไปตามมาตรฐานและความปลอดภัย เช่น การทดสอบแบตเตอรี่แพค การทดสอบสถานีอัดประจุสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อความปลอดภัยอีกด้วย ดังนั้นหากประชาชนและผู้ประกอบการต้องการการสนับสนุนมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ทางเราก็มีความยินดี
 
| 
 (นายกฤษฎา อุตตโมทย์ นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย)  | 
นายกฤษฎา อุตตโมทย์ นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย กล่าวว่า “จะเห็นได้ว่าในปัจจุบันจำนวนผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้ามีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เเต่สิ่งที่ต้องผลักดันส่งเสริมให้รองรับกับจำนวนผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า คือการสนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้และลงมือทำเพื่อพัฒนาความสามารถทางด้านทักษะที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า อันจะเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเติบโตด้านการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ ซึ่งข้อมูลจากกรมขนส่งทางบก และจากการรวบรวมสถิติของสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย พบว่า ณ เดือนเมษายน 2566 ในประเทศไทยมีจำนวนยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมทุกประเภทกว่า 58,232 คัน แบ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้ากว่า 32,000 คัน รถจักรยานยนต์ไฟฟ้ากว่า 23,000 คัน และยานยนต์ไฟฟ้าประเภทรถโดยสาร รถสามล้อ และอื่นๆอีกกว่า 3,000 คัน ดังนั้นผมเองในนามสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย จึงขอแสดงความขอบคุณมายังผู้สนับสนุนการแข่งขันรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงเพื่อธุรกิจแห่งอนาคตในทุกภาคส่วน ที่ร่วมมือกันสร้างโอกาสให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ และอาชีพใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต”

