Hyundai Creta รถเอนกประสงค์เครื่องเล็ก แต่แรงเกินตัว

15 เมษายน 2565

              ในช่วงงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34 ที่ผ่านมา Autoindy ได้แอบย่องไปทดสอบยานยนต์เอนกประสงค์รุ่นใหม่ล่าสุดของจากค่ายแดนกิมจิ “Hyundai Creta” ในสนามทดสอบของงาน ที่อยู่บริเวณลานริมทะเลสาบเมืองทองนั่นเอง การทดสอบครั้งนี้อาจจะไม่ใช่ Fully Test Drive แต่ก็ถือว่าเป็นการทำความรู้จักกับรถเอนกประสงค์คันนี้ได้พอสมควรครับ

              ในปีนี้ เนื่องด้วยมีการก่อสร้างแนวรถไฟฟ้าอยู่บริเวณริมถนนด้านหนึ่งของลานทดสอบ ทำให้พื้นที่ของลานทดสอบถูกเฉือนหายออกไปเป็นบางส่วน ซึ่งหากคนที่คุ้นเคยกับลานทดสอบแห่งนี้คงจะทราบดีว่าจะมีการแบ่งสเตชั่นการทดสอบออกเป็น 4 อย่างคือ อัตราเร่ง สลาลอม เลนเชนจ์ และเบรก ซึ่งเนื่องด้วยพื้นที่ที่หายไป ทำให้มีการตัดสเตชั่นเบรกออกไป เหลือเพียง 3 สเตชั่นเท่านั้น

              ก่อนจะไปทดสอบ ขอย้อนเล่าถึงสเปกคร่าว ๆ ของ Hyundai Creta กันอีกครั้งก่อน สำหรับคนที่ยังไม่รู้จักรถเอนกประสงค์แดนกิมจิคันนี้

              Hyundai Creta เป็นรถยนต์เอนกประสงค์ แบบ 5 ที่นั่งรุ่นล่าสุดจากฮุนได ที่เพิ่งแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการในมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 ยนตรกรรมรุ่นนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว D-CVVT ขนาดความจุกระบอกสูบ 1,497 ซีซี ที่ให้กำลังสูงสุด 115 แรงม้า ที่ 6,300 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 144 นิวตัน–เมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที รองรับน้ำมัน E10 และส่งกำลังไปยังล้อคู่หน้าด้วยเกียร์อัตโนมัติที่มีชื่อเฉพาะของฮุนไดว่า IVT หรือ Intelligent Variable transmission

              รูปโฉมภายนอกของ Hyundai Creta ถูกดีไซน์ออกมาให้ดูล่ำสันบึกบึน ด้วยมิติตัวรถยาว 4,315 มิลิลเมตร กว้าง 1,790 มิลลิเมตร สูง 1,630 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,610 มิลลิเมตร ไฟหน้าเป็นแบบ LED ที่ดูสอดรับกับกระจังหน้าดีไซน์ล้ำ ๆ อย่างลงตัว พร้อมตกแต่งเสริมด้วยแถบสีโลหะบริเวณเสาซีที่ช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับตัวรถขึ้นมาอีกมาก ส่วนด้านหลังรถเป็นชุดไฟท้ายดีไซน์แปลกตา แต่ลงตัว พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 บนสปอยเลอร์  ด้านบนหลังคาติดตั้งชุดพาโนรามิก ซันรูฟ ที่โดดเด่นด้วยหลังคากระจกที่คลุมยาวเกือบเต็มพื้นที่ แต่บานกระจกสามารถเปิดได้เพียงด้านครึ่งหน้าเท่านั้นด้านล่างเสริมหล่อด้วยล้ออัลลอยด์ลายหรูขนาด 17 นิ้ว ที่รัดไว้ด้วยยางขนาด 215/60-17

              สำหรับระบบช่วงล่างนั้น Hyundai Creta เลือกใช้ระบบช่วงล่างหน้าแบบอิสระ แม็กเฟอร์สัน สตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบทอร์ชั่นบีม พร้อมเหล็กกันโคลง

              ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบายพอสมควรจากการสัมผัสในช่วงสั้น ๆ การตกแต่ง ดูเรียบ ๆ ด้วยโทนสีดำทั้งหมดไม่ได้ใช้ดีไซน์หวือหวาอะไรมากนัก เพียงเสริมความหรูหราให้มากขึ้นอีกนิดด้วยวัสดุแบบ Piano Black ในบางจุด

              Hyundai Creta มาพร้อมกับพวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง พร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่นสำหรับควบคุมระบบเครื่องเสียง รับโทรศัพท์ หรือควบคุมระบบ Cruise Control มองสูงขึ้นไปเป็นเกจวัดหน้าจอแบบดิจิตอลที่สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่พร้อมธีมประจำโหมดได้ จอกลางเป็นแบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple Carplay และ Andriod Auto บริเวณคอนโซลกลางติดตั้งชุด Wireless Charger เอาไว้เพิ่มความสะดวกสบายในการชาร์จอุปกรณ์สื่อสารประจำตัว

 

เริ่มต้นทดสอบ

              อย่างที่เกริ่นไว้ตั้งแต่ตอนต้นว่าการทดสอบคราวนี้มีอยู่ 3 สเตชั่น ก็เอาเป็นว่ามาเริ่มกันเลยกับสถานีทดสอบอัตราเร่ง เงื่อนไขการทดสอบคือเร่งความเร็วเต็มที่จากจุดสตาร์ท ไปจนถึงจุดเบรกที่มีระยะทางประมาณ 120 เมตร ซึ่งจากการทดสอบก็พบว่าเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร ของ Hyundai Creta สามารถเรียกอัตราเร่งออกมาได้แบบจี๊ดจ๊าดเอาเรื่องเลยทีเดียว เพราะด้วยระยะทางดังกล่าว ก่อนที่เท้าจะย่ำลงไปลงบนแป้นเบรก ตาที่มองเข็มความเร็วก็พบว่าปลายเข็มใกล้จะแตะเลข 90 แล้ว ซึ่งหากเทียบกับรถหลาย ๆ คันที่เคยทดสอบมาในระยะประมาณเดียวกันนี้ ก็ถือได้ว่ารถเอนกประสงค์คันนี้มีอัตราเร่งที่เกินพอสำหรับการใช้งานทั่วไป

              สุดทางตรง..เราก็วนรถเข้าสู่จุดทดสอบที่ 2 คือสลาลอม ซึ่งในจุดนี้ ชุดพวงมาลัยไฟฟ้า และระบบช่วงล่างที่จัดมาให้ก็ทำงานได้ดี พวงมาลัยคม แม่นยำ บังคับเลี้ยวได้ดั่งใจ ช่วงล่างออกแนวแน่นหนึบ สามารถซับแรงเหวี่ยงที่เกิดจากจังหวะการจงใจหักพวงมาลัยโยกซ้าย โยกขวาแรง ๆ ได้ดี ตัวรถไม่มีอาการโคลงเคลง เหวี่ยงไปมาให้รู้สึกมากมาย เหมือนรถบางรุ่นที่ช่วงล่างนุ่มนิ่มเกินไป

              สเตชั่นสุดท้ายเป็นการทดสอบ Lane Change ซึ่งจำลองการหักเลี้ยวกะทันหันคล้ายการหักหลบรถบนถนน โดยทางทีมงานสนาม จัดไลน์ให้ต้องหักหลบชุดไพลอนไปทางขวา ก่อนที่จะหักเลี้ยวกลับซ้ายแบบทันที ก่อนจะดึงกลับขวาอีกครั้งเพื่อให้สามารถมุดกลับเข้าสู่ช่องเลนที่เปิดเอาไว้ได้ ซึ่งเมื่อทดสอบก็พบกว่า Hyundai Creta ทำได้ดี แม้ยางจะส่งเสียงครางประท้วงมาดังพอสมควร แต่ตัวรถก็ประคองตัวเองผ่านอุปสรรคมาได้แบบสบาย ๆ ทั้งด้วยพวงมาลัยที่คอนโทรลได้ง่าย กับช่วงล่างที่ไม่ทรุดยุบตัวไปเยอะจนคอนโทรลรถยาก ประกอบกับระบบควบคุมการทรงตัวที่ช่วยอยู่บ้าง สังเกตได้จากไฟกระพริบของระบบบนหน้าปัดที่กระพริบแว่บ ๆ ในหางตา

              เบ็ดเสร็จโดยรวมแล้วกับการทดสอบเบา ๆ กับ Hyundai Creta ก็พบว่าเป็นรถคันนี้ เป็นรถที่มีรูปโฉม หน้าตาทั้งภายนอกและภายในที่สวยงาม ดูดี มีออฟชั่นต่าง ๆ ครบถ้วน ส่วนสมรรถนะก็ดีเอาการสำหรับรถเอนกประสงค์ขนาดเล็กที่มีขนาดเครื่องยนต์เพียง 1.5 ลิตร ด้วยอัตราเร่งที่ดีเกินตัว ช่วงล่างที่แน่นหนึบ แต่ไม่แข็งกระด้าง และพวงมาลัยที่คอนโทรลรถได้แม่นยำ ขับสนุก

              ในโอกาสต่อไปหากมีโอกาสได้ทดสอบเจ้า Creta แบบเต็ม ๆ ด้วยระยะทางที่ไกลกว่านี้ จะมาเล่าให้ฟังกันต่อครับ ว่าเป็นอย่างไร...

Hyundai Creta ตั้งราคาจำหน่ายไว้ 2 รุ่น คือ รุ่น SE ราคา 949,000 บาท และ รุ่นท็อป SEL ราคา 999,000 บาทสำหรับผู้ที่สนใจก็หาโอกาสไปลองทดสอบกันได้เลยครับ

Visitors: 879,523