Porche x Tag Heuer การจับมือของสองสุดยอดแห่งวงการรถยนต์และนาฬิกา


23 มิถุนายน 2564

           ด้วยพลังขับเคลื่อนจากประวัติศาสตร์ด้านนวัตกรรมและการแข่งขันกีฬาประลองความเร็วอันเป็นหัวใจสำคัญ ​และนำโดยตระกูลที่เปี่ยมด้วยวิสัยทัศน์และเชื่อมั่นในคุณค่าของการประกอบธุรกิจ ความแม่นยำ และประสิทธิภาพที่ผลักดันให้ทั้งก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้าของวงการ ในวันนี้ TAG Heuer และ Porsche ได้จับมือเป็นพันธมิตรในหลากหลายมิติ สร้างมาตรฐานใหม่ในการจับมือทำงานร่วมกัน

          ลา โชซ์-เดอ-ฟองด์,​ สวิตเซอร์แลนด์ และ สตุตการ์ต, เยอรมนี: TAG Heuer แบรนด์นาฬิกาสวิส และ Porsche ผู้ผลิตรถยนต์สปอร์ตสัญชาติเยอรมัน  ประกาศจับมือเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการ นับเป็นการรวมตัวกันอย่างแท้จริงของสองแบรนด์ที่มีดีเอ็นเอดุจเดียวกันทั้งในด้านมอเตอร์สปอร์ตและการแข่งขัน และนำไปสู่การร่วมงานกันในระยะยาว ทั้งในการลงสนามแข่งขันและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ดังปรากฏเป็นนาฬิกา TAG Heuer Carrera Porsche Chronograph ผลงานแรกในการเฉลิมฉลองการทำงานร่วมกันของสองแบรนด์ไอคอนิกทั้งสอง

          เฟรเดริก อาร์โนลต์ ซีอีโอของ TAG Heuer กล่าวว่าถึงเวลาที่เหมาะสมในการที่สองแบรนด์จับมือเป็นพันธมิตรกัน "TAG Heuer และ Porsche ล้วนมีประวัติศาสตร์และเชื่อในคุณค่าเดียวกัน แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือคือทัศนคติ เราเหมือน Porsche ตรงที่มีความเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอยู่ในหัวใจ และมุ่งมั่นกับการพัฒนาประสิทธิภาพให้สูงยิ่งๆ ขึ้น ในการประกาศเป็นพันธมิตรครั้งนี้ นับเป็นการร่วมงานกันระหว่าง TAG Heuer และ Porsche อย่างเป็นทางการหลังจากได้โคจรมาพบกันนานหลายทศวรรษ และเราจะร่วมกันสร้างประสบการณ์และสุดยอดผลิตภัณฑ์เพื่อลูกค้าและแฟนๆ ซึ่งรักในแบรนด์ของเรา และสิ่งที่เรายึดมั่น"

         "มิตรภาพที่แข็งแกร่งของเรากับแบรนด์ TAG Heuer นั้นเกิดขึ้นมานานหลายทศวรรษ และผมก็ยินดียิ่งที่เราได้ก้าวไปอีกขั้นในกรอบความสัมพันธ์ในเชิงกลยุทธ์นี้" เดทเลฟ วอน พลาเทน สมาชิกในบอร์ดบริหารฝ่ายขายและการตลาดของบริษัท Porsche AG กล่าว "เราจะนำเสนอสิ่งลูกค้าของเรารักเกี่ยวกับทั้งสองแบรนด์ ทั้งมรดกที่สืบทอดต่อกันมา อีเวนต์กีฬาสุดระทึก ประสบการณ์ชีวิตที่ไม่เหมือนใคร และการเติมเต็มให้ความฝันเป็นจริง เราทั่งสองมุ่งมั่นที่จะสร้างช่วงเวลาที่พิเศษที่หาไม่ได้จากไหนสำหรับคอมมิวนิตี้ของเรา เราตั้งตารอที่จะได้ทำงานร่วมกัน"

 

TAG Heuer และ Porsche สองประวัติศาสตร์ หนึ่งความหลงใหล

         TAG Heuer และ Porsche มีหลายสิ่งที่เหมือนกัน ทั้งประวัติศาสตร์อันยาวนานและชื่อเสียงในด้านการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำสมัย มุมมองที่เปี่ยมด้วยพลังไม่ขึ้นกับใคร  และความเชี่ยวชาญและความเป็นเลิศในการออกแบบ เป็นเวลานานกว่าครึ่งศตวรรษมาแล้วที่เรื่องราวของทั้งสองแบรนด์ได้เข้ามาเก่ียวโยงกันอย่างน่าทึ่ง

         แน่นอนว่า อาจมีข้อโต้แย้งว่าความเชื่อมโยงในด้านประวัติศาสตร์ของทั้งสองแบรนด์น่าจะเริ่มต้นตั้งแต่สมัยที่สองบริษัทก่อตั้งขึ้นโดยผู้ประกอบการที่ศึกษาหาคามรู้ด้วยตัวเอง เอดัวร์ ฮอยเออร์ และเฟอร์ดินานด์ พอร์เชอ เป็นผู้มีวิสัยทัศน์และนักบุกเบิก ทั้งสองได้สร้างสรรค์ผลงานที่พลิกโฉมหน้าวงการของตน ฮอยเออร์นั่นเป็นผู้ให้กำเนิดนาฬิกาโครโนกราฟที่ผลิตขึ้นในระบบโรงงานเรือนแรก ส่วนพอร์ชเป็นผู้ประดิษฐ์ระบบมอเตอร์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ (electric wheel hub motor) ด้วยประดิษฐกรรมที่โดดเด่นนี้ทำให้ทั้งสองได้รับรางวัลในงาน เวิลด์ แฟร์ ซึ่งจัดขึ้นที่ปารีสในระยะเวลาห่างกัน 11 ปี โดยฮอยเออร์ได้รับเมื่อปี 1889 ส่วนพอร์ชนำเสนอผลงาน Lohner-Porsche Electromobile ที่ใช้นวัตกรรมดังกล่าวเมื่อปี 1900

 

มิตรภาพอันงดงามเริ่มต้น...และผลิบาน

          อย่างไรก็ดี จุดเริ่มต้นอันเป็นหัวใจของการจับมือเป็นพันธมิตรครั้งนี้มาจากผู้ก่อตั้งแบรนด์ เฟอร์ดินานด์ แอนตัน เอิร์สต์ หรือ แฟร์รี่ ลูกชายของเฟอร์ดินานด์ พอร์เชอ เขาได้เข้าทำงานกับบริษัทวิศวกรรมของพ่อในปี 1931 เขณะอายุได้ 22 ปี และได้ก่อตั้งแบรนด์รถยนต์ตามชื่อตระกูลในปี 1948 ภายในไม่กี่ปี ชื่อของ Porsche ก็ได้รับการจารึกจากความสำเร็จในสนามแข่งทั่วโลก ซึ่งรวมถึงชัยชนะในรายการแข่งขัน Carrera Panamericana ในปี 1954 และเพื่อเป็นเกียรติแก่ความสำเร็จครั้งนั้น Porsche จึงตั้งชื่อเครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่สุดของตนเองว่า Carrera 

          แจ๊ก ฮอยเออร์ เหลนของเอดัวร์ ฮอยเออร์ รับหน้าที่ดูแลบริษัทของครอบครัวมาหลายทศวรรษ ในปี 1963 เขาได้ประดิษฐ์นาฬิกา Heuer Carrera Chronograph รุ่นแรก ออกแบบมาให้นักแข่งรถสามารถดูเวลาได้เพียงแค่เหลือบมองอย่างง่ายดายขณะประลองความเร็วอยู่ในสนามแข่ง

          กล่าวได้ว่าเป็นครั้งแรกที่สุดยอดนาฬิกาและเครื่องยนต์ Carrera อันทรงพลังของ Porsche ได้โคจรมาพบกันในโลกการแข่งขันรายการ Carrera (หรือ race) ซึ่งเป็นตัวแทนของความทะเยอทะยาน ความเร็ว และความเป็นเลิศในทางเทคนิค

 

           แจ๊ก ฮอยเออร์ยังเป็นผู้คิดค้น Heuer Monaco นาฬิกาตัวเรือนเหลี่ยมรุ่นแรกซึ่งเป็นนาฬิกาอัตโนมัติโครโนกราฟและมีความสามารถในการกันน้ำ ชื่อรุ่นได้มาจากการแข่งขันรายการ Monaco Grand Prix รวมทั้งรายการ Monte Carlo Rally อันโด่งดัง ซึ่ง Porsche คว้าชัยชนะรายการสามครั้งติดต่อกันระหว่างปี 1968-1970 ด้วยรถซิกเนเจอร์รุ่น Porsche  911  และเช่นเดียวกับที่รถ Porsche 911 ได้สร้างชื่อไว้ในโลกยานยนต์ นาฬิกา Heuer Monaco ซึ่งตัวเรือนเป็นเอกลักษณ์ หน้าปัดสีน้ำเงินเมทัลลิก เข็มวินาทีสีแดง และเม็ดมะยมอยู่ทางด้านซ้ายของตัวเรือนก็ได้ทลายกฎเกณฑ์การดีไซน์ของโลกนาฬิกาเช่นกัน

            สุดยอดนวัตกรรมใน Heuer Monaco นำเสนอในเสนอในระดับราคาที่น่าสนใจ และแทนที่จะโปรโมทผ่านแคมเปญโฆษณาราคาแพง แจ๊ก ฮอยเออร์ยังเชื่อมโยงแบรนด์ของตนเข้ากับ Porsche ด้วยการสปอนเซอร์แบบครีเอทีฟผ่านนักแข่งรถ และผู้ค้ารถยนต์ Porsche นามว่า โจ ซิฟเฟิร์ต  ซึ่งประจำอยู่ที่เมือง ฟริตบูร์ก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในปี 2005 วันฉายภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์เรื่อง Jo Siffert: Live Fast - Die Young แจ๊ก ฮอยเออร์เล่าถึงสัญญาไว้ว่า “เพื่อแลกเปลี่ยนกับค่าจ้างจำนวน 25,000 สวิสฟรังก์ เขาจะใส่โลโก้ของเราไว้บนเสื้อและรถของเขา และเขายังสามารถซื้อนาฬิกาของเราในราคาส่งและนำไปขายให้กับเพื่อนนักแข่งโดยได้กำไรเล็กน้อย ซึ่งก็ดูเหมือนเขาทำสำเร็จนะเพราะคนครึ่งหนึ่งในโซนแพดด็อกของ F1 ใส่นาฬิกาฮอยเออร์ในช่วงปลายซีซั่นของการแข่งขันในปี 1969”

            และเพราะความเชื่อมโยงนี้ทำให้ สตีฟ แม็กควีนใส่โลโก้ฮอยเออร์ลงบนเสื้อนักแข่งในระหว่างถ่ายภาพยนตร์เรื่อง Le Mans ในปี 1970 และยังขับรถ Porsche 917 นักแสดงหนุ่มชาวอเมริกันกล่าวไว้ตอนนั้นว่า “ผมจะขับรถรุ่นเดียวกับโจ ซิฟเฟิร์ต และผมอยากใส่เสื้อนักแข่งแบบเดียวกับเขา”

            มีอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญและแสดงให้เห็นความเชื่อมโยงอย่างเป็นทางการระหว่าง Porsche และ Heuer หรือชื่อเต็มๆ ตอนนั้นคือ TAG Heuer ซึ่งชื่อนี้ได้มาหลังจากที่แบรนด์ถูกขายให้กับ TAG Group ในช่วงกลางยุค 1980s ทั้งสองแบรนด์ร่วมกันพัฒนาและผลิตเครื่องยนต์ TAG-Turbo ซึ่งทำให้ทีมแม็คลาเรนคว้าแชมป์ F1 ได้สามครั้งติดต่อกัน โดยนักแข่งนิกิ เลาดา ชะนไปในปี 1984 ตามด้วยอาแล็ง โพรสต์ ในปี 1985 และ 1986

            ในปี 1999 สายสัมพันธ์ระหว่างสองแบรนด์ก็ยิ่งแน่นแฟ้นขึ้น นับจากการแข่งขันชิงถ้วย Porsche Carrera Cup และ Supercup  ตามมาด้วย Endurance World Championship และอีกมากมาย  TAG Heuer ซึ่งถือเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมก่อตั้งการแข่งขัน Formula E ได้ช่วยยกระดับการแข่งขันรถยนต์ไฟฟ้าหนึ่งที่นั่ง Porsche ได้สร้างทีม Formmula E ร่วมกับ TAG Heuer ทั้งยังตั้งชื่อรางวัลและเป็นพาร์ทเนอร์การจับเวลาในปี 2019 นับเป็นจุดเริ่มต้นของการร่วมงานกันอย่างจริงจังและขยายไปสู่ด้านอื่นๆ  และในปี 2021 ‘มิตรภาพอันงดงาม’ ก็เบ่งบานกลายเป็นการจับมือเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการ และฉลองด้วยนาฬิกาสเปเชี่ยลเอดิชั่นซึ่งกล่าวได้ว่า ‘ควรค่าแก่การรอคอยอย่างแท้จริง”

 พันธมิตรในโลกกีฬาใหม่ในปี 2021 และต่อๆ ไป

          นอกจากการเปิดตัวนาฬิกา TAG Heuer Carrera Porsche Chronograph ซึ่งจะกล่าวถึงรายละเอียดต่อไปแล้ว ในปี 2021 ยังเต็มไปด้วยโปรเจ็กต์ร่วมมากมายที่สะท้อนถึงแพสชั่นนในด้านกีฬาที่ใช้ความเร็วและความแม่นยำของ TAG Heuer และ Porsche

 การแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต มรดกที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง

         หลักในการสานสัมพันธ์อย่างเหนี่ยวแน่นและยืนยาวระหว่าง TAG Heuer และ Porsche คือการแข่งขันรถยนต์ระดับโลก และในอีกหลายปีต่อจากนี้ การแข่งขันอันน่าตื่นเต้นเหล่านี้จะเป็นหัวใจสำคัญของการจับมือเป็นพันธมิตรครั้งใหม่นี้

 

         TAG Heuer Porsche Formula E Team สร้างประวัติศาสตร์นับจากลงแข่งในซีซั่นแรก นับเป็นเหตุการณ์สำคัญตั้งแต่เปิดการแข่งขัน Dirinya (SA) ในเดือนพฤศจิกายน 2019 เมื่ออังเดร ลอตเตอเรอร์เข้าเส้นชัยเป็นที่สอง เป็นครั้งแรกที่นักแข่งหน้าใหม่ได้รางวัลจากการลงแข่งขันครั้งแรกในปี 2014/2015 และในปีที่สอง TAG Heuer Porsche Formula E Team ยังไม่เพียงดึงดูดแฟนๆ กลุ่มใหม่เข้าสู่สนามเพื่อเชียร์การแข่ขันรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่ต่อสู่เพื่อชิงชัยระดับโลก และผู้ที่อยู่เบื้องหลังพวงมาลัย ทำหน้าที่ขับเคลื่อนรถยนต์ไฟฟ้าของ Porsche รุ่น 99X Electric ก็คือ อังเดร ลอตเตอเรอร์และเพื่อนร่วมทีม ปาสกาล เวห์รเลน

         Porsche สร้างผลงานโดดเด่นในการแข่งขันแบบระยะยาว และด้วยความร่วมกับ TAG Heuer ทีม GT ก็เตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขัน FIA World Endurance Championship (WEC) ในปีอันยิ่งใหญ่นี้ยังรวมถึงการเป็นพาร์ทเนอร์กันในการจัดการแข่งขันแบบ one-make รวม 10 สนามเพื่อชิงแชมป์ Porsche Carrera Cup

         และนอกจากการแข่งขันในสนามจริงแล้ว TAG Heuer ยังมีส่วนเกี่ยวข้องใน virtual racing โดยให้การสนับสนุน Porsche TAG Heuer Esports Supercup และด้วยมีเกียรติประวัติอันยาวนานในสนามแข่ง จึงไม่แปลกที่ TAG Heuer จะก้าวเข้ามามีส่วนร่วมในรายการ ‘คลาสสิก’ และแรลลี่ของ Porsche ด้วยเช่นกัน

 รวมทีม บนสนามหญ้าและบนคอร์ต

           นอกจากการเป็นพาร์ทเนอร์กันในกีฬาแข่งรถและอีสปอร์ตแล้ว  TAG Heuer และ Porsche ยังมีแพสชั่นเหมือนกันในกีฬายอดนิยมอย่างกีฬากอล์ฟและเทนนิส กีฬา กอล์ฟมีความสำคัญสำหรับ TAG Heuer และทำให้แบรนด์หันมาพัฒนานาฬิกา TAG Heuer Connected ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่วน Porsche ก็ได้จัดกิจกรรมกอล์ฟของตนเอง เช่นการแข่งขันชิงถ้วย Porsche Golf Cup และให้การสนับสนุน Porsche European Open ตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งทั้งสองรายการนี้ TAG Heuer ก็จะเข้าร่วมด้วยเช่นกัน

 ในส่วนการสนับสนุนกีฬาเทนนิสของ Porsche ซึ่งรวมถึงการแข่งขัน Porsche Tennis Grand Prix ที่เมืองสตุตการ์ด TAG Heuer ก็จะเข้าไปเป็นพาร์ทเนอร์ในด้านการจับเวลาอย่างเป็นทางการ รวมถึงผลิตนาฬิกาสำหรับการแข่งขันนับจากนี้เป็นต้นไป และยังร่วมงานกับนักกีฬาหญิงที่มีความสามารถโดดเด่นในเกมนี้ด้วย ทั้งหมดนี้เป็นเพราะ TAG Heuer เองก็มีชื่อในการสนับสนุนกีฬาเทนนิสมายาวนาน และได้ร่วมงานกับนักกีฬาระดับโลก การร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กันในกีฬาสองชนิดนี้จะเป็นก้าวต่อไปของทั้งสองแบรนด์

 

เพื่อจิตวิญญาณการแข่งขันในตัวเราทุกคน

TAG Heuer และ Porsche รู้ดีว่าลูกค้าและแฟนๆ ของตนจะไม่ยอมเป็นเพียงผู้เฝ้าสังเกตการณ์แต่เพียงเท่านั้น พวกเขาชอบสรรหาความตื่นเต้นในทุกๆ วัน อยากที่จะลองความท้าทายใหม่ๆ และมีส่วนร่วมด้วยตัวเอง พวกเขาไม่ใช่คนที่คิดจะเก็บของดีไซน์สวยงามไว้ในเซฟหรือโรงเก็บรถ แต่ของเหล่านั้นควรถูกนำมาใช้ นำมาทดสอบ และเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ด้วยเหตุนี้ ทั้งเหล่าผู้รัก TAG Heuer และ Porsche ก็จะได้สร้างประสบการณ์อันยากจะลืมเลือนผ่านกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ ร่วมกัน

 

TAG Heuer Carrera Porsche Chronograph ผลงานเฉลิมฉลองการจับมือเป็นพันธมิตร

           Carrera ชื่อนี้มีความเชื่อมโยงกับ TAG Heuer และ Porsche มาหลายเจเนอเรชั่น จึงไม่แปลกใจที่คอลเลกชั่นนี้จะเป็นผลงานแรกที่ทั้งสองแบรนด์ได้ร่วมกันสร้างสรรค์ ถือเป็นการอุทิศให้กับมรดกทั้งในและนอกสนามของสองแบรนด์ระดับตำนาน นาฬิกาโครโนกราฟรุ่นใหม่นี้เป็นเหมือนการชิมลางและสื่อว่าทั้งสองแบรนด์สามารถสร้างสรรค์สิ่งยิ่งใหญ่ร่วมกันอย่างไรได้บ้าง

           TAG Heuer Carrera Porsche Chronograph คือตัวอย่างที่ดีของการทำงานร่วมงานกัน ผลงานนี้ใช้ต้นแบบดีไซน์ของนาฬิการุ่น TAG Heuer Carrera Sport Chronograph ซึ่งขอบหน้าปัดมีสเกลทาคีมิเตอร์อันเป็นเอกลักษณ์ และได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากดีไซน์ของ Porsche ลงไป นาฬิกาโครโนกราฟรุ่นนี้คือส่วนผสมที่ลงตัวของสองแบรนด์ไอคอนแห่งประสิทธิภาพ คุณภาพ และนวัตกรรม สะท้อนความเป็นเลิศและสิ่งที่เป็นหัวใจสำคัญของทั้งสองแบรนด์

          ชื่อของ Porsche ได้รับการสลักและมองเห็นอย่างชัดเจนบนขอบตัวเรือน และยังนำฟอนต์มาใช้ออกแบบอินเด็กซ์ สีประจำของ Porsche ซึ่งได้แก่ แดง ดำ เทา ซึ่งทำให้นึกถึงนาฬิกานาฬิการุ่นประวัติศาสตร์ของฮอยเออร์ ก็ถูกนำผสมผสานไว้ในนาฬิกา และเมื่อมองผ่านกระจกฝาหลังคริสตัลก็จะเห็นจานเหวี่ยงหรือ oscillating mass ซึ่งออกแบบใหม่ให้เหมือนกับยางล้อรถของ Porsche และประทับคำว่า Porsche และ TAG Heuer ส่วนหน้าปัดซึ่งทำเอฟเฟ็กต์แบบพื้นถนนเพื่อนาฬิการุ่นนี้โดยเฉพาะ สื่อถึงแพสชั่นของการใช้ชีวิตขับขี่ไปบนท้องถนน ส่วนตัวเลขอารบิกก็ทำให้นึกถึงตัวเลขบนแผงหน้าปัดของรถยนต์สปอร์ตหรูของ Porsche

          ผลงานซึ่งทลายขนบนี้มาพร้อมกับสายหนังลูกวัวสุดหรู เย็บด้วยเทคนิคเดียวกับที่ใช้ในการตกแต่งภายในตัวรถยนต์ พร้อมตัวล็อกสายแบบ interlocking สะท้อนหัวใจในการดีไซน์รถแข่ง และที่ขาดไม่ได้คือกลไกอินเฮาส์ Calibre Heuer 02 ซึ่งสำรองพลังงานได้ถึง 80 ชั่วโมง กลไกโครโนกราฟนี้ยังใช้คลัตช์แนวตั้งและคอลัมน์วีล สื่อถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ในเรื่องของประสิทธิภาพการแสดงเวลาอย่างแม่นยำ

          TAG Heuer Carrera Porsche Chronograph เป็นนาฬิกาสเปเชียลเอดิชั่น มาพร้อมกับแพ็กเกจจิ้งสั่งทำพิเศษโดยใช้สีและสไตล์ที่เข้ากับสุดยอดนาฬิการุ่นนี้  กล่องสีดำประดับด้วยโลโก้สีขาวของ TAG Heuer และ Porsche  ภายในกล่องซึ่งบรรจุถุงสีดำสำหรับใส่นาฬิกาเวลาเดินทาง ออกแบบเป็นสีแดงซึ่งเป็นสีของ Porsche

         แม้ว่าการจับมือเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการระหว่าง TAG Heuer และ Porsche กำลังอยู่ในจุดสตาร์ต แต่ก็ตั้งอยู่บนรากฐานและหลักการที่หนักแน่น นั่นคือมรดกและแพสชั่นที่เหมือนกันของทั้งสองแบรนด์ที่ไม่เคยหยุดนิ่งอยู่กับที่  มิตรภาพนี้สะท้อนถึงความฝันและความปรารถนาของสองตระกูลผู้ก่อตั้งผู้มีวิสัยทัศน์ยาวไกล เรียกได้ว่าเป็นการทำงานร่วมกันอย่างแท้จริงซึ่งก่อร่างและดำเนินมานานหลายทศวรรษบนสนามแข่งระดับโลกและบนข้อมือของนักแข่งผู้เป็นตัวแทนคติความเชื่อของแจ๊ก ฮอยเออร์ที่ว่า “เวลาไม่หยุดนิ่ง แล้วทำไมเราต้องหยุด”

 

Visitors: 1,498,445