เมอร์เซเดส-เบนซ์ ก้าวข้ามทุกบรรทัดฐานความหรูหราด้วย “Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium” รุ่นประกอบในประเทศใหม่ ผสานความแข็งแกร่งแบบเอสยูวีเข้ากับที่สุดแห่งความหรูหราในแบบฉบับของเมอร์เซเดส-เบนซ์
25 มกราคม 2564
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ก้าวข้ามทุกบรรทัดฐานความหรูหราของการสร้างสรรค์รถยนต์เอสยูวีระดับพรีเมียม ด้วยการเปิดตัว “Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium”สุดยอดยนตรกรรมอเนกประสงค์ พรีเมียม (Large Full-Size SUV) แบบ 7 ที่นั่งรุ่นประกอบในประเทศใหม่อย่างเป็นทางการ ผสานความหรูหราเหนือระดับเช่นเดียวกับรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ตระกูล S-Class เข้ากับความแข็งแกร่งและอเนกประสงค์ในแบบรถยนต์เอสยูวีที่เพียบพร้อมด้วยระบบความปลอดภัยขั้นสูงสุด ย้ำความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์พรีเมียมในประเทศไทยพร้อมตอบโจทย์ความต้องการรถยนต์เอสยูวีระดับพรีเมียมที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน
มร. โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในปี 2564 นี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์พร้อมย้ำความมุ่งมั่นที่เรามีต่อตลาดรถยนต์พรีเมียมในประเทศไทย โดยเฉพาะเซกเมนต์รถยนต์เอสยูวีที่เรามองเห็นความต้องการของผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน ด้วยการเปิดตัว “Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium” รุ่นประกอบในประเทศอย่างเป็นทางการ โดยนอกจากจะเป็นการตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคแล้ว ยังเป็นการสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ในประเทศไทย ด้วยการนำเสนอยนตรกรรมอเนกประสงค์พรีเมียม (Large Full-Size SUV) แบบ 7 ที่นั่งรุ่นประกอบในประเทศ ให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่ที่ไม่ประนีประนอมทั้งในเรื่องของความหรูหราเหนือระดับเช่นเดียวกับรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ตระกูล S-Class และการสร้างสรรค์รถยนต์สายพันธุ์เอสยูวีที่มีความอเนกประสงค์และแข็งแกร่ง พรั่งพร้อมด้วยระบบความปลอดภัยขั้นสูงสุด ในราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น ซึ่งเมอร์เซเดส-เบนซ์มั่นใจว่า จะได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้าที่กำลังมองหายนตรกรรมอเนกประสงค์ที่ตอบทั้งโจทย์ด้านความหรูหราและความแข็งแกร่งในแบบเอสยูวี”
Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premiumคือสุดยอดยนตรกรรมอเนกประสงค์พรีเมียม (Large Full-Size SUV) แบบ 7 ที่นั่งรุ่นประกอบในประเทศใหม่ ที่มีความโดดเด่นทั้งในเรื่องความกว้างขวางของห้องโดยสาร ความสะดวกสบายเหนือจินตนาการ ดีไซน์ที่มีความสง่างาม และความหรูหราเหนือระดับเช่นเดียวกับรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ตระกูล S-Class พร้อมทั้งความแข็งแกร่งและอเนกประสงค์ในแบบรถยนต์เอสยูวีที่เพียบพร้อมด้วยระบบความปลอดภัยขั้นสูงสุด ให้การขับขี่แบบ off-road ที่ดีที่สุด โดยมาพร้อมขุมพลังดีเซลขนาด 2,925ซีซี ให้กำลังสูงสุดถึง 286แรงม้าพร้อมแรงบิดสูงสุด 600นิวตันเมตรที่ 1,200-3,200รอบ/นาทีให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 7วินาที การขับขี่ยังมอบความเพลิดเพลินและราบรื่นด้วยระบบส่งกำลังแบบ 9G-TRONIC ที่ให้ประสิทธิภาพยอดเยี่ยม ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์ทำได้รวดเร็วและนุ่มนวล พร้อมประหยัดเชื้อเพลิงกว่า 6.5%
ระบบขับเคลื่อน 4ล้อ “Full time” แบบ 4MATIC ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมรถและการทรงตัวบนถนนที่เปียกลื่น รวมถึงการขับขี่บนทางแบบ OFF-ROAD ให้คุณสามารถควบคุมการขับขี่ได้อย่างเฉียบคม มั่นใจ และให้ความนุ่มนวลตลอดการเดินทางในทุกสภาพถนนด้วยระบบช่วงล่างแบบ AIRMATIC และเป็นครั้งแรกที่จะได้พบกับฟังก์ชันเตรียมรถเข้าสู่เครื่องล้างอัตโนมัติ โดยจะทำงานอย่างสอดคล้องร่วมกับระบบ AIRMATICเพียงสั่งงานผ่านหน้าจอ media display
ดีไซน์ภายนอกมีจุดเด่นที่เทคโนโลยีไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED พร้อมระบบไฟสูงแบบ ULTRA RANGE Highbeam ที่สามารถปรับความเข้มของแสงและความยาวของลำแสงได้อิสระจากกัน โดยมีระบบตรวจจับวัตถุที่คำนวณความสว่างอัตโนมัติ และไฟท้ายแบบ LED พร้อมล้ออัลลอยด์น้ำหนักเบาดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ 21 นิ้ว นอกจากนี้ยังมีหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ (Panoramic sliding sunroof) ที่เลื่อนเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าที่ช่วยเพิ่มสุนทรียะในการขับขี่
ภายในห้องโดยสารซึ่งรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 7ท่าน ได้รับการออกแบบให้มีความกว้างขวางและสะดวกสบายมาตรฐานเดียวกับ S-Class ด้วยระยะฐานล้อที่ยาวขึ้น 60มิลลิเมตร จึงมีพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างและโปร่งสบายขึ้น โดยเฉพาะที่นั่งแถว 2ที่สามารถปรับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมบันทึกตำแหน่งที่นั่งได้ และยังสามารถปรับเลื่อนเบาะถอยหลังได้ถึง 10 เซนติเมตร เพื่อเพิ่มพื้นที่สำหรับวางขา โดยพนักพิงสามารถปรับเอนได้มากกว่าเดิม ส่วนเบาะที่นั่งแถวที่ 3 เป็นที่นั่งแบบ full-sizeรองรับผู้โดยสารที่มีส่วนสูงได้ถึง 194 เซนติเมตร พร้อมระบบ EASY-ENTRY ที่ออกแบบเป็นพิเศษให้เบาะและพนักพิงของที่นั่งแถว 2สามารถพับขึ้นด้วยระบบไฟฟ้า เพื่อให้เข้าสู่ที่นั่งแถว 3ได้ง่ายดายขึ้นทั้งนี้ เบาะที่นั่งแถวที่ 2และ 3 สามารถพับได้อย่างอิสระ เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายและเพิ่มพื้นที่ความจุสำหรับเก็บสัมภาระได้สูงสุดถึง 2,400 ลิตร ตอบสนองทุกความต้องการ ทั้งความหรูหรา ความสะดวกสบาย และความกว้างขวางตามแบบฉบับยานยนต์อเนกประสงค์
ในห้องโดยสารยังเพิ่มสุนทรียภาพด้วยระบบไฟส่องสว่างแบบAmbient Light ที่มีให้เลือกถึง 64 สี โดย Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium ยังมาพร้อมเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยที่ล้ำสมัยมากมาย โดยเฉพาะ Mercedes me connectที่มีความสามารถในการเชื่อมต่อระหว่างลูกค้าและผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ โดยทำงานร่วมกับระบบ MBUX (Mercedes-Benz User Experience) ที่ช่วยมอบความสะดวกสบายและความปลอดภัยที่มากขึ้นสำหรับผู้ขับขี่พร้อมหน้าจอสำหรับผู้โดยสารแถวที่ 2เพื่อความบันเทิงแบบ MBUXRear Seat Entertainment จำนวน 2จอขนาด 11.6 นิ้ว พร้อมระบบควบคุมหน้าจอแบบสัมผัส เพลิดเพลินตลอดการเดินทางด้วยหูฟังแบบ wireless head sets คุณภาพสูง
Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premiumรุ่นประกอบในประเทศ ราคา 6,499,000 บาท
ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premiumและเมอร์เซเดส-เบนซ์ทุกรุ่นได้ที่ผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์และผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ