ทดลองขับ ALL NEW MAZDA CX-8 CROSSOVER SUV 7 ที่นั่ง รุ่นใหม่มาแรง บนเส้นทางเชียงราย-เชียงใหม่

             หลังจากรถเอนกประสงค์ 7 ที่นั่งรุ่นใหม่ล่าสุด All New Mazda CX-8 เปิดตัวไปไม่นาน Autoindy ก็ได้รับเชิญจาก บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อเดินทางไปร่วมการทดสอบรถรุ่นดังกล่าว บนเส้นทางจากเชียงราย มุ่งหน้าสู่เชียงใหม่ โดยสภาพส่วนใหญ่เป็นเส้นทางนอกเมือง ลัดเลาะไปบนภูเขา รวมระยะทางกว่า 280 กิโลเมตร

              การทดสอบรถยนต์เอนกประสงค์ All New Mazda CX-8 คราวนี้ ทางมาสด้า ได้จัดทริปเป็นแบบรันต่อเนื่องกันไปหลายกรุ๊ป โดยจะวิ่งสลับไปมาจากเชียงใหม่ ไปเชียงราย แล้วก็มีคนรับไม้ต่อวิ่งสลับจากเชียงราย ไปเชียงใหม่ โดยทริปของเราเริ่มต้นจากการบินจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปยังสนามบินเชียงรายในช่วงบ่าย ๆ ก่อนจะเข้าพักที่โรงแรม เพื่อรับฟังบรรยายสเปกรถ เส้นทาง และข้อมูลต่าง ๆ ก่อนที่จะเดินทางในเช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น

             All New Mazda CX-8 มาพร้อมกระจังหน้าทรง Signature Wing พร้อมกรอบโครเมียมที่ติดโลโก้เอาไว้ตรงกลาง  พร้อมไฟหน้า Projector แบบ LED ใหม่ รับกับกันชนหน้าดีไซน์สปอร์ต ต่ำลงมาเป็นไฟตัดหมอกแบบ LED ที่ให้มาเฉพาะในรุ่นท็อปสุด รุ่น 2.2 XDL EXCLUSIVE ส่วนด้านท้ายมีคิ้วขอบไฟท้ายแบบ LED ส่วนล้อทั้ง 4 เป็นล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว สีโครเมียนรมดำ พร้อมยาง 225/55 R19

             หากมองผ่าน ๆ รถรุ่นนี้แทบจะเหมือนกับ Mazda CX-5 แต่มีการรวมจุดเด่นบางส่วนของ Mazda CX-9 รถ SUV รุ่นใหญ่ของมาสด้าเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้เจ้า All New Mazda CX-8 มีมิติตัวถังอยู่ที่ ยาว 4,900 มม. กว้าง 1,840 มม. สูง 1,730 มม. ระยะฐานล้อ 2,930 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 200 มม.

              สำหรับการทดสอบคราวนี้ รถที่เราใช้นั่งประจำทริปนี้เป็น All New Mazda CX-8 รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.5 ลิตร ภายใต้ชื่อรุ่น 2.5 SP SKYACTIV-G แบบ 7 ที่นั่ง ที่นับได้ว่าเป็นรุ่นท็อปสุดในกลุ่มเครื่องยนต์เบนซิน ซึ่งจริง ๆแล้วในไลน์ของ CX8 นั้นจะมีรุ่นท็อปสุดเป็นรุ่น 2.2 XDL EXCLUSIVE ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.2 ลิตร ที่มาพร้อมเบาะนั่ง 6 ที่นั่ง โดยแถว 2 จะเปลี่ยนเป็นเบาะแยกแบบ Captain Seat นั่นเองครับ

              สำหรับเจ้า All New Mazda CX-8 รุ่น 2.5 SP SKYACTIV-G นี้มาพร้อมกับวาล์วแปรผันคู่อัจฉริยะ Dual S-VT ทำให้สามารถสร้างแรงม้าสูงสุดได้ถึง 195 แรงม้าที่รอบเครื่องยนต์ 6,000 รอบต่อนาที ให้แรงบิดได้ถึง 258 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที จับคู่มากับเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-Drive 6 Speed ระบบขับเคลื่อนเป็นแบบ 2 ล้อหน้า

              ในตอนเช้าก่อนขึ้นรถ น้อง ๆ ที่เดินทางในรถคันเดียวกันก็เดินมาบอกว่า “พี่ ๆ ช่วยขับมือแรกทีนะครับ ผมจะขอไปนั่งแถว 3 ถ่ายรายการกันนะครับ” ก็เป็นอันว่าในรถช่วงแรก ผมเป็นคนขับ มีน้องช่างภาพนั่งแถว 2 ส่วนแถว 3 ที่ใคร ๆ ก็สงสัยว่าจะนั่งได้จริงรึเปล่าก็กลายเป็นที่นั่งของนักข่าวร่างใหญ่พิกัดประมาณ 178 ซม. กับอีกคนที่ร่างสันทัดกับความสูงประมาณ 170 ซม. บรรจุอยู่

              สัมผัสแรกสำหรับที่นั่งคนขับนั้น เบาะของ All New Mazda CX-8 ถือได้ว่าเป็นเบาะที่นั่งสบาย โอบกระชับตัวได้ดี ปุ่มควบคุมต่าง ๆ อยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานง่าย จับถนัดมือ โดยเฉพาะชุดเซ็นเตอร์ คอมมานเดอร์ ที่ทำหน้าที่ควบคุมฟังก์ชั่นต่าง ๆ ที่อยู่พอดีมือซ้ายที่วางอยู่บนที่พักแขนทำให้สามารถเปิดเพลง เปิดเนวิเกเตอร์ เปิดดูข้อมูลต่าง ๆ บนหน้าจอได้โดยไม่ต้องละมือไปกดจอ ในขณะเดียวกันก็แทบไม่จำเป็นต้องละสายตาจากถนนลงไปมองหาปุ่มต่าง ๆ

              ภายในห้องโดยสารของ All New Mazda CX-8 ตกแต่งอย่างหรูหราด้วยโทนสีเข้ม เบาะเป็นหนังนุ่ม Nappa สีน้ำตาลแดง Deep Red ส่วนแผงประดับคอนโซลและแผงข้างประดับด้วย Real Woof ลายสวย เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เซ็ตเมมโมรี่ได้ 2 ตำแหน่ง

              เบาะนั่งแถว 2 มี 2 แบบ โดยในรุ่นท็อป 6 ที่นั่งจะเป็นเบาะแบบ Captain Seat ซึ่งเป็นเบาะแยกซ้าย-ขวาและมีเคาท์เตอร์แบบคอนโซลกลางซึ่งเป็นที่วางแก้ว ช่องเก็บของ และตำแหน่งของช่องเสียบ USB ส่วนในรุ่นรอง ๆ ลงมาจะเป็นเบาะ 7 ที่นั่ง ซึ่งแถวกลางจะเป็นเบาะเต็มซึ่งนั่งได้ 3 คน โดยตัวเบาะเป็นแบบปรับพับได้ 60:40

              สำหรับฟังก์ชั่นความบันเทิงนั้น All New Mazda CX-8 มาพร้อมจอกลางแบบทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟนผ่านระบบ Mazda Connect พร้อม Apple CarPlay และ Android Auto ซึ่งสามารถควบคุมได้ทั้งการสัมผัสหน้าจอ หรือบนชุดควบคุม Center Commander และบนพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น

              ในการขับขี่นั้นช่วงแรกของเส้นทางอันมีระยะประมาณเกือบ 80 กิโลเมตรนั้น เป็นถนนไฮเวย์ช่วงสั้น ๆ ประมาณ 20 กว่ากิโลเมตร หลังจากนั้นก็กลายมาเป็นเส้นทางคดโค้ง ขึ้นเขา-ลงเขาเกือบตลอดทาง ซึ่งเจ้า All New Mazda CX-8 ก็ตอบโจทย์รถเอนกประสงค์ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นกำลังของเครื่องที่เพียงพอกับการใช้งานกับสภาพเส้นทางในรูปแบบที่เจอได้แบบสบาย ๆ ไม่ว่าจะเป็นความนุ่มนวลของช่วงล่างแบบแมคเฟอร์สัน สตรัทในด้านหน้า และมัลติลิงค์ ในด้านหลัง หรือพละกำลังในของเครื่องยนต์ในการเร่งแซงที่ตอบสนองต่อการเหยียบคันเร่งได้อย่างทันใจ และมีแรงเหลือเฟือที่จะดันตัวเองขึ้นเนินเขาไปได้แบบสบาย ๆ

              ระหว่างทางที่ขับ ก็มีเสียงจากด้านหลังดังมาเป็นระยะ “โห แถว 3 นั่งได้จริง ๆ นะเนี่ยะ ขาไม่ติดเลย” อีกคนก็บอกต่อ “นุ่มดีด้วยพี่ ไม่กระด้างเลย เดินทางสบาย ๆ เลยแหละ” พอเดินทางมาถึงช่วงที่เป็นทางโค้งเยอะ ๆ เสียงข้างหลังก็ดังมาอีก “พอได้พี่ พอได้ ไม่เหวี่ยงมาก” จังหวะพอดีกับที่หัวขบวนเร่งความเร็วขึ้น ผมจึงเร่งตาม พอเข้าโค้งหนัก ๆ ติด ๆ กันสักพักก็มีเสียงมาว่า “เบาหน่อยพี่ ขับธรรมดาพอไหว ขับเร็ว ๆ เหวี่ยงเหมือนกันพี่” พอพูดคุยกันก็พบว่า ช่วงล่างของ All New Mazda CX-8 ถูกเซ็ตมาค่อนข้างนุ่ม เพื่อให้สามารถนั่งโดยสารได้สบายในแถวที่ 3 ซึ่งหากใช้ความเร็วในการเดินทางแบบปกติ เช่นขับเที่ยวกับครอบครัวชิล ๆ ไปเรื่อย ๆ ก็จะนั่งโดยสารได้แบบสบาย ๆ แต่หากใช้ความเร็วสูง และมีการเข้าโค้งที่ค้อนข้างรุนแรง ก็จะมีการเหวี่ยงอยู่พอสมควร แต่หากเทียบกับรถคู่แข่งในกลุ่มเดียวกัน หรือเทียบกับรถในกลุ่ม PPV ก็ถือได้ว่าเหนือกว่าคนอื่นอยู่ไม่น้อย

              อีกสิ่งหนึ่งที่ผมชอบสำหรับ All New Mazda CX-8 ก็คือความเงียบของห้องโดยสารที่มีการเก็บเสียงได้ดี สามารถคุยกันระหว่างคนนั่งแถวหน้าสุดกับหลังสุดได้โดยน้ำเสียงปกติธรรมดา ไม่ต้องตะเบ็งเสียงเลยแม้แต่น้อย

              หลังจากการทดสอบในช่วงแรกผ่านไป คณะของเราแวะร้านกาแฟ เพื่อผ่อนคลายอิริยาบถ หลังจากที่ขับยาวมากว่า 70 กิโลเมตร ในช่วงถัดมาผมเปลี่ยนมานั่งในตำแหน่งแถว 3 ดูบ้าง ด้วยสรีระที่สูง 182 ซ.ม. ของผมก็สามารถบรรจุลงไปในที่นั่งด้านหลังสุดได้สบาย ๆ เพียงแต่ต้องขยับเบาะนั่งแถวกลางเลื่อนขึ้นหน้าไป 1 สเต็ปของรางเลื่อน ก็เลครูมก็กว้างพอที่จะนั่งได้สบาย ๆ โดยไม่ติดขัดอะไรแล้ว ส่วนทางด้านบนก็พอดี ๆ หัวไม่ถึงกับชนหลังคา แต่ปลายผมก็ระๆ หลังคารถที่เป็นมุมลาดลงนิด ๆ ตามแนวเสา C แต่ถ้านึกถึงขนาดตัวของผมแล้ว ก็ถือได้ว่า All New Mazda CX-8 ดีไซน์พื้นที่ห้องโดยสารแถวสุดท้ายได้ดีจริง ๆ ส่วนหนึ่งน่าจะเกิดจากระยะฐานล้อที่ขยับมาให้ยาวกว่ารุ่นพี่ CX-5 อีก 23 ซ.ม.

              ในตอนแรกอีกสิ่งที่รู้สึกก็คือระบบปรับอากาศเหมือนจะมาไม่ถึงด้านหลังรถ แต่เมื่อลองกด ๆ ไล่ฟังก์ชั่นของชุดระบบปรับอากาศในแถวที่ 2 แล้วก็พบว่าจะต้องตั้งโหมดระบบปรับอากาศให้เป็นระบบ AUTO พร้อมกับตั้งทิศทางลมให้มีการเป่าเท้าด้วย ก็จะมีลมโชย ๆ ออกมาจากบริเวณใต้เบาะแถว 2 พุ่งมายังที่นั่งแถว 3 สาเหตุก็คือ All New Mazda CX-8 ได้ออกแบบให้มี “ท่อลม” ซ่อนอยู่ใต้เบาะ ทั้งบริเวณใต้เบาะคู่หน้า และใต้เบาะแถว 2 ซึ่งหากไม่เปิดระบบเป่าเท้า ก็จะไม่มีลมเป่าออกมาจากท่อดังกล่าว ด้านหลังก็จะไม่ค่อยเย็นนัก แต่เมื่อเปิดโหมดให้ถูกต้อง ที่นั่งแถว 3 ก็ถือว่านั่งสบาย ลมเย็นไม่อึดอัด แต่ถ้าให้ดีหากผู้โดยสารมีความสูงไม่เกิน 170 ซ,ม, ตามสเป็กที่ทางมาสด้าระบุมาก็ยิ่งจะนั่งสบายมาก ๆ

              สำหรับเบาะแถว 3 นี้ เป็นเบาะแบบแยกส่วน 50:50 ที่สามารถพับราบลงไปกับพื้นห้องโดยสาร เพื่อเพิ่มพื้นที่การเก็บของให้มากยิ่งขึ้นได้อีกด้วย

              ส่วนระบบความปลอดภัยทั้งในเชิงป้องกัน และปกป้อง All New Mazda CX-8 ก็ให้มาครบครันทั้ง ระบบ ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลนช่วยให้ผู้ขับปลอดภัยขณะเปลี่ยนเลน, RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง, MRCC (Mazda Radar Cruise Control) ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ ระบบจะทำการปรับลดความเร็วลงตามความเร็วของรถคันหน้าและรักษาระยะห่างกับรถคันหน้าให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ, SBS (Smart Brake Support) ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ หากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจาก การชนรถคันหน้า ระบบจะส่งสัญญาณเตือนและเสียง เตือนอย่างต่อเนื่อง, Advanced SCBS (Advanced Smart Brake Support) ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advanced หากระบบตรวจสอบพบว่า ไม่สามารถเลี่ยงการชนได้ เพิ่มขีดความสามารถในการตรวจจับคนเดินถนน

             อีกทั้งยังมีระบบแสดงภาพ 360 องศา ที่มาพร้อมการทำงานอัตโนมัติเมื่อถอยและมีการเข้าใกล้รถทางด้านหน้า ระบบ DSC (Dynamic Stability Control) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว, กระจกมองหลังระบบตัดแสงอัตโนมัติ ระบบ HLA (Hill Launch Assist) ระบบช่วยออกตัวรถขณะอยู่บนทางลาดชัน, กล้องมองหลังพร้อมเส้นกะระยะขณะถอยหลัง, ระบบ ESS (Emergency Signal System) สัญญาณไฟกะพริบอัตโนมัติเมื่อเบรกรถในภาวะฉุกเฉิน, ระบบ ABS 4 ล้อ พร้อม EBD ช่วยกระจายแรงเบรก และถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย รวม 6 จุด

              สรุปโดยรวมหลังจากที่ขับขี่เจ้า All New Mazda CX-8 มาระยะหนึ่ง ก็พบว่ารถคันนี้ เป็นรถ Crossover SUV ขนาด 6-7 ที่นั่ง ที่ดีไซน์มาได้อย่างลงตัว สวยงามทั้งภายนอก ภายใน พร้อมใส่ DNA ของมาสด้ามาอย่างครบถ้วน อีกทั้งยังเป็นรถ 7 ที่นั่งที่สามารถใช้งานได้จริง สามารถให้ผู้ใหญ่เข้าไปนั่งในแถว 3 ได้อย่างสบาย ๆ ถ้าตัวไม่ได้ใหญ่โตมากนัก ส่วนในเรื่องการขับขี่ก็สามารถใช้งานได้อย่างคล่องตัว อัตราเร่งดี เพียงพอสำหรับการเร่งแซงได้แบบสบาย ๆ แต่สำหรับคนที่ต้องการความจี๊ดจ๊าดสไตล์สปอร์ตอาจจะไม่ค่อย “ถึง” นัก การเร่งจะออกแนวเนียน ๆ นวล ๆ หากดูเข็มไมล์จะเห็นได้ว่าความเร็วพุ่งทันใจอยู่ไม่น้อย แต่ความสมูทของเกียร์ทำให้ไม่ปรากฏอาการดึงแรง ๆ เหมือนรถแนวสปอร์ตมากนัก เพราะรถรุ่นนี้ถูกวางไว้ให้เป็นรถครอบครัวเป็นหลัก

              สำหรับการใช้งานบนทางคดโค้ง ระบบ G-Vectoring Control (GVC) ก็ช่วยให้การเข้าโค้ง “เนียน” ขึ้น เข้าโค้งได้ง่ายขึ้น คอนโทรลรถได้ง่ายขึ้น ลดการเหวี่ยงของรถลงไปไม่น้อย ทำให้ทั้งคนขับและผู้โดยสารนั่งสบายกว่ารถที่ไม่มีระบบดังกล่าวแบบเห็นได้ชัด ส่วนระบบเบรกที่เป็นดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อก็ช่วยให้การเบรกทำได้ดี นุ่มนวล แต่มั่นใจ

              All New Mazda CX-8 จึงเป็นรถเอนกประสงค์ที่เหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิกหลายคน ที่กำลังมองหารถสำหรับเดินทางท่องเที่ยว และใช้งานได้แบบหลากหลาย ทั้งในเมืองนอกเมือง และเป็นรถที่มีรูปโฉมโฉบเฉี่ยวทันสมัย มีความคล่องตัว ขนาดไม่ใหญ่โตเทอะทะเกินไป รวมทั้งยังมีเทคโนโลยีอันทันสมัยบรรจุอยู่ครบถ้วน มีระบบความปลอดภัยครบครัน มีความคุ้มค่าในสนนราคาที่ไม่แรงนัก ซึ่งหากคุณกำลังมองหารถแบบที่ว่า ลองแวะไปชม ไปลองขับ All New Mazda CX-8 ดูสักครั้ง..เพราะนี่เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจมาก ๆ เลยทีเดียวครับ