VTEC & iVTEC คู่เหมือนที่แตกต่าง !!!
05-10-2558
เรื่องราวของรหัสต่าง ๆ บนเครื่องยนต์ เป็นเรื่องที่สับสนกันพอสมควรนะครับ ระบบเดียวกัน แค่ข้ามไปอยู่คนละแบรนด์ ก็ถูกเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามไปจนคนอ่านมึนงงกันไปเป็นแถว ๆ ดังนั้นวันนี้ผมจะมาคลายข้อสงสัยเกี่ยวกับเจ้าชื่อระบบบางตัวที่คนสับสนกันอยู่บ่อย ๆ นะครับ ระบบที่ว่าก็คือระบบ VTEC และ iVTEC แต่ก่อนที่จะไปเจาะลึกกันที่ระบบดังกล่าว ขอท้าวความไปก่อนว่าที่มาที่ไปซึ่งทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ต้องคิดเจ้าระบบนี้ออกมาคืออะไร
อันดับแรกขออธิบายก่อนนะครับว่ารถที่วิ่งช้า ๆ กับวิ่งเร็ว ๆ นั้น จะใช้รอบเครื่อง และปริมาณของอากาศ หรือไอดีต่างกัน แต่หากมีการตั้งระยะของวาล์วโดยตั้งค่าให้เท่ากันตลอดทุกช่วงความเร็ว ในรอบสูง ๆ ปริมาณอากาศก็จะไม่เพียงพอ เทียบง่าย ๆ ก็คงคล้ายกับเวลาเราเดินกับวิ่งนั่นแหละครับ เวลาวิ่งเราก็จะต้องการอากาศมากกว่า
ซึ่งเจ้ารหัส VTEC ของเครื่องในกลุ่มนี้ ก็ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวนั่นเอง โดยคำว่า VTEC ย่อมาจาก “VARIABLE VALVE TIMING AND LIFT ELECTRONIC CONTROL” หมายถึงการควบคุมระยะเวลา และระยะยกของวาล์วไอดีด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยจะทำงานประสานกับชุดแคมที่มีการตั้งองศาของเพลาลูกเบี้ยว 2 ระดับในตัวเดียวกัน โดยมีกระเดื่องล็อคเล็ก ๆซึ่งในรอบต่ำเครื่องยนต์จะใช้เพลาลูกเบี้ยวปกติซึ่งมีองศาต่ำในการทำงานเพื่อเน้นความนุ่มนวล และประหยัดเชื้อเพลิง ซึ่งเมื่อรถวิ่งเร็วขึ้น ใช้รอบสูงขึ้นระบบ VTEC จะทำงานโดยกระเดื่องล็อคจะทำหน้าที่ล็อคให้เปลี่ยนมาใช้เพลาลูกเบี้ยวชุดที่ 2 ซึ่งมีองศาสูงกว่าให้ทำงานแทนเพื่อให้มีจังหวะการเปิดวาล์วและระยะยกวาล์วที่มากขึ้น ทำให้สามารถเรียกกำลังเครื่องให้มากขึ้นกว่าเดิมหรือที่หลาย ๆ คนเรียกจังหวะดังกล่าวว่า “เทคเปิด” นั่นเอง
ส่วน iVTEC หรือ INTELIGENT-VTEC นั้นก็คล้ายกับ VTEC ธรรมดานั่นแหละครับ เพียงแต่จะมีระบบ VTC (VARIABE TIMING CONTROL) หรือระบบควบคุมการปิด-เปิดวาล์ว ซึ่งระบบนี้จะทำงานปรับของแคมไอดีให้เหมาะสมกับทุกช่วงการทำงานของเครื่องยนต์ตามการคำนวณและสั่งการจาก ECU ทำให้มีจุดเด่นก็คือเป็นเครื่องยนต์ที่ให้พละกำลังสูง และมีอัตราการบริโภคเชื้อเพลิงต่ำ เนื่องจากทำงานได้ละเอียดกว่านั่นเองครับ
เป็นอย่างไรบ้างครับ อ่านมาถึงบรรทัดนี้ คงจะพอเข้าใจถึงระบบ หน้าที่การงาน และความแตกต่างของระบบทั้ง 2 กันแล้วนะครับ