แอสตัน มาร์ติน เปิดตัวไฮไลท์รุ่นพิเศษ DB11 เผยโฉมครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก ในงานบางกอก อินเตอร์เนอร์ชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2016
สำหรับรถสปอร์ตลักชัวรี่สัญชาติอังกฤษ อย่าง แอสตันมาร์ตินในสังกัดบริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด หรือ เอ็มจีซี-เอเชีย (MGC-ASIA) เปิดตัวยนตกรรมรุ่นพิเศษ DB10 และ DB11 ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2016 หลังจากเผยโฉมครั้งแรกในโลกในงาน Geneva Motor show เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
นายคมกริช นงค์สวัสดิ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เฮอริเทจ มอเตอร์ เซลส์ แอนด์ เซอร์วิสเซส (ไทยแลนด์) จำกัด ภายใต้บริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด กล่าวว่า “ปีนี้เป็นปีที่พิเศษสุดสำหรับ แอสตัน มาร์ติน ในงานมอเตอร์โชว์ 2016 ที่แอสตัน มาร์ติน ได้นำ ไฮไลท์พิเศษมาเปิดตัวถึงสองรุ่นให้เศรษฐีไทยได้สัมผัสก่อนใครในเอเชีย ได้แก่ แอสตัน มาร์ติน DB10ซึ่งรุ่นนี้ผลิตขึ้นมาเพียง 10 คันเท่านั้น สำหรับใช้ในภาพยนตร์เจมส์บอนด์ 007 ภาคล่าสุดสเปกเตอร์ เพื่อให้ผู้ร่วมงานได้รับชมรถคันจริงเป็นครั้งแรก ซึ่งเหลืออยู่เพียงคันเดียวในโลกหลังจากการถ่ายทำภาพยนตร์ และอีกหนึ่งรุ่นสุดพิเศษนั่นก็คือ แอสตัน มาร์ติน DB11 ที่จะมาเผยโฉมเป็นครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก โดย DB11 เป็นรถยนต์รุ่นแรกภายใต้แผนก้าวสู่ศตวรรษที่ 2 ของแอสตัน มาร์ติน และเป็นรถตระกูลดีบีที่แรงที่สุดเท่าที่ แอสตัน มาร์ติน เคยผลิตมา”
Aston Martin DB11 มาพร้อมเครื่องยนต์ V12 ทวินเทอร์โบ 5.2 ลิตร รุ่นล่าสุดจาก Aston Martin ด้วยโครงสร้างอะลูมิเนียมแบบเชื่อมเป็นชิ้นเดียวที่เบาขึ้น แกร่งขึ้น และประหยัดพื้นที่มากขึ้น DB11 จึงมีสมรรถนะ ประสิทธิภาพ และความปราดเปรียวมากที่สุดเท่าที่ Aston Martin เคยมีมา โดยมีความเร็วสูงสุดถึง 200 ไมล์/ชม.1 และเร่งความเร็วจาก 0 เป็น 62 ไมล์/ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.9 วินาที1 ผสานสมรรถนะจากระบบสั่งการอัจฉริยะและเทคโนโลยีหยุด-เดินเครื่องอัตโนมัติเพื่อประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“ในขณะเดียวกัน แอสตัน มาร์ติน แบงคอก ไม่ได้หยุดนิ่งที่จะขยายธุรกิจไปยังตลาดอาเซียน (ASEAN) ซึ่งขณะนี้ก็เป็นที่ยืนยันจาก Aston Martin Lagonda (HQ) ที่ให้ความไว้วางใจ และมอบหมายให้เอ็มจีซี-เอเชีย เป็นผู้รับผิดชอบและขยายตลาด แอสตัน มาร์ติน ไปยังประเทศเวียดนามและกัมพูชา ซึ่งจะเริ่มดำเนินการได้ภายในปี 2016 นี้อย่างแน่นอน ซึ่งเป้าหมายการลงทุนขั้นแรกวางไว้ประมาณ 12-15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับการสร้างโชว์รูมและศูนย์บริการแบบครบวงจร ในการขยายธุรกิจดังกล่าว ทางบริษัทฯ จะใช้สำนักงานที่เมืองไทยเป็นศูนย์กลางขับเคลื่อน ซึ่งคาดหมายว่าตลาดรถยนต์แอสตัน มาร์ติน จะเติบโตขึ้นไม่น้อยกว่า 20% ในปี 2559 นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเปิดโชว์รูมแอสตัน มาร์ติน แบบครบวงจรที่จังหวัดภูเก็ตในเดือนเมษายนนี้ เพื่อรองรับการเติบโตและความต้องการของลูกค้าในพื้นที่อีกด้วย” นายคมกริช กล่าวเพิ่มเติม
