เชฟโรเลต แนะนำวิธีใช้รถกระบะและรถเอสยูวีในการลุยทางออฟโรดและบรรทุกสัมภาระสำหรับแคมป์ปิ้งอย่างมีศักยภาพ

28-10-2558

          ถ้าคุณเป็นคนรักการท่องเที่ยวแบบตั้งแคมป์เหมือนคุณสุดารัตน์ ทองแท้ จากกรุงเทพฯ ช่วงนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการชักชวนเพื่อนและครอบครัวเดินทางท่องเที่ยว เพื่อสัมผัสธรรมชาติและสายหมอกด้วยการออกไปตั้งแคมป์ตามอุทยานแห่งชาติหลายแห่งทั่วประเทศไทย

          คุณสุดารัตน์ ทองแท้ เคยขับรถกระบะเชฟโรเลต โคโลราโดของเธอขึ้นไปบนดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย และดอยอ่างขาง หรือ “สวิสเซอร์แลนด์เมืองไทย” จังหวัดเชียงใหม่ เธอยังเคยไปกางเต๊นท์แคมป์ปิ้งบนอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ยอดเขาที่สูงที่สุดของเมืองไทยอีกด้วย

           สำหรับการขับรถขึ้นเขาที่มีความชันและลงเขาอย่างปลอดภัยนั้น คุณสุดารัตน์ ทองแท้ ไว้วางใจระบบความปลอดภัยในโคโลราโดทั้งระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล ระบบช่วยเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรก ระบบรองรับการเบรกกะทันหัน ระบบกระจายแรงเบรกอิเลคทรอนิคส์ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน และระบบป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางชันซึ่งเป็นเทคโนโลยีทีติดตั้งอยู่ในรถอเนกประสงค์ เชฟโรเลต เทรลเบลเซอรและแคปติวาด้วยเช่นกัน

          “โคโลราโดสามารถพาเราไปได้ทุกที่ ด้วยเครื่องยนต์ที่ทรงพลังและรองรับอุปกรณ์ตั้งแคมป์ได้มากมาย ขณะที่ภายในห้องโดยสารก็ให้ความสะดวกสบายอย่างมาก” คุณสุดารัตน์ ทองแท้ กล่าว พร้อมกับแนะนำว่าการออกแคมป์ควรมีอุปกรณ์สำคัญอย่างตัวแปลงไฟและกล่องเก็บของแบบล็อกได้        เชฟโรเลตนำเสนอกระบะหลังที่มีตัวล็อกได้เป็นอุปกรณ์พิเศษสำหรับโคโลราโด

           สำหรับการรับชมธรรมชาติและวิถีชีวิตสัตว์ป่า คุณสุดารัตน์ ทองแท้ แนะนำอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามในประเทศไทย โดยใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ เพียง 2 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น นอกจากเขาใหญ่ ผู้เชี่ยวชาญด้านอุทยานแห่งชาติยังแนะนำสถานที่ตั้งแคมป์ที่น่าสนใจ ซึ่งรวมถึงแก่งกระจานในจังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ ตลอดจนดอยอินทนนท์อีกด้วย

           อุทยานแห่งชาติแห่งอื่นๆ ที่มีพื้นที่สำหรับการตั้งแคมป์ ได้แก่ ดอยฟ้าห่มปก ดอยสุเทพ-ปุย ห้วยน้ำดัง (ทั้งหมดอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่) น้ำตกเอราวัณในจังหวัดกาญจนบุรี ภูกระดึงในจังหวัดเลย ผาแต้มในจังหวัดอุบลราชธานี ตลอดจนหมู่เกาะสิมิลันและหมู่เกาะสุรินทร์ในจังหวัดพังงา คุณสามารถเข้าชมอุทยานแห่งชาติของประเทศไทยและจองพื้นที่สำหรับการตั้งแคมป์ได้ที่นี่

          การเดินทางสู่พื้นที่ห่างไกลและทุรกันดารควรใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD หรือ 4x4) อาทิโคโลราโดหรือเทรลเบลเซอร์ ซึ่งมีสมรรถนะการเกาะถนนสูงสุดและมีศักยภาพการขับเคลื่อนบนทางออฟโรดอย่างเต็มที่ ขณะที่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อของแคปติวาเหมาะสมกับเส้นทางที่ไม่สมบุกสมบันมากนัก

          ดร. ภูชิตต์ ภูริปาณิก หัวหน้ากลุ่มสปิริต ออฟ เทรลเบลเซอร์ คลับ ขับรถอเนกประสงค์พีพีวีของเขาขึ้นดอยอินทนนท์ ดอยสุเทพ-ปุย แก่งกระจานและเขาใหญ่ เขายืนยันว่าเทรลเบลเซอร์มีศักยภาพที่ยอดเยี่ยมในการเข้าถึงพื้นที่ตั้งแคมป์ห่างไกลและแนะนำให้ติดราวหลังคาอเนกประสงค์

           "เทรลเบลเซอร์มีสมรรถนะที่ดีเยี่ยม แข็งแกร่งและกว้างขวางมาก เพื่อนของผมมักนอนหลับหรือพักค้างแรมในรถโดยไม่ต้องกางเต็นท์" คุณภูชิตกล่าว พร้อมแนะนำให้ใช้ที่นอนเป่าลมสำหรับการท่องเที่ยวแบบแคมป์ปิ้งด้วย 

          ไม่ว่าพื้นถนนจะเป็นแบบใดก็ตาม คอยล์สปริงสี่ล้อและช่วงล่างด้านหลังแบบไฟว์-ลิงค์ของ เทรลเบลเซอร์ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนและการขับขี่ที่แข็งกระด้างซึ่งเป็นบุคลิกทั่วไปของรถอเนกประสงค์บนพื้นฐานรถกระบะหรือพีพีวี ซึ่งทำให้เทรลเบลเซอร์มีสมรรถนะการขับขี่ที่ดีที่สุดในระดับเดียวกัน คอยล์สปริงถูกออกแบบให้รองรับการขับเคลื่อนบนเส้นทางออฟโรดได้อย่างดีเยี่ยมและช่วยเพิ่มความสะดวกสบายบนเส้นทางสมบุกสมบัน

           รถอเนกประสงค์พีพีวีและรถกระบะยังมอบความกว้างขวางสำหรับผู้โดยสารทุกที่นั่งและรองรับการบรรทุกอุปกรณ์ตั้งแคมป์ พื้นที่กระบะหลังของโคโลราโด 2 ประตูสามารถรองรับเบาะเป่าลมขนาดเล็กถ้าผู้ขับขี่ต้องการนอนมองดวงดาวบนท้องฟ้า สำหรับคนที่ต้องการหลังคา เทรลเบลเซอร์มาพร้อมเบาะสามแถวและสามารถพับเบาะราบได้ทั้งหมดเพื่อเพิ่มเนื้อที่เป็น 1,830 ลิตรให้ความกว้างขวางเพียงพอสำหรับการนอนพักผ่อนบริเวณพื้นที่ด้านหลังได้

          รถขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นยานพาหนะที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวแบบตั้งแคมป์ใจกลางป่า พร้อมกับมีอุปกรณ์เสริมอีกมากมายที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำเพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย อาทิ

  • ราวหลังคาหรือชุดเก็บสัมภาระ
  • กล่องเก็บของแบบปิดล็อกได้
  • เต็นท์สำหรับวางบนกระบะหลัง
  • ฝาครอบกระบะแบบแข็ง
  • แผ่นรองพื้นกระบะ
  • ผ้าหุ้มเบาะที่นั่ง (เพื่อความสะอาด)
  • ราวแขวนจักรยาน
  • ตัวแปลงไฟสำหรับการชาร์จอุปกรณ์ไฟฟ้า

           นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญการขับขี่ออฟโรดยังแนะนำอุปกรณ์เสริมและเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการขับออฟโรด ในเส้นทางที่ทุรกันดารมากๆ ดังนี้

  • ยางแบบ A/T ออฟโรด (และยางอะไหล่ขนาดเดียวกับล้อที่ใช้จริง)
  • ที่วัดลมยาง ตัวปล่อยลมยางและชุดปั๊มเติมลมไฟฟ้า
  • แม่แรง
  • ชุดปฐมพยาบาลและถังดับเพลิง
  • ชุดวินช์
  • สายลากจูงและตัวลากจูง
  • เครื่องมืออเนกประสงค์ พลั่วและขวาน
  • วิทยุสื่อสาร
  • เข็มทิศ
  • ไฟฉายนำทาง

             ก่อนออกเดินทางท่องเที่ยวแบบแคมป์ปิ้ง เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทยแนะนำลูกค้าควรตรวจสอบระบบและของเหลวต่างๆ ของตัวรถโดยช่างเทคนิคที่มีความเชี่ยวชาญของเชฟโรเลตที่ศูนย์ผู้จัดจำหน่ายเชฟโรเลตทั่วประเทศ

Visitors: 878,789