NEW PORSCHE 911 CARRERA เปิดตัวเป็นทางการที่งาน IAA

15-09-2558

          สตุ๊ดการ์ท. ปอร์เช่เฉลิมฉลองการเปิดตัวให้กับ 911 คาร์เรร่า (911 Carrera)ใหม่ล่าสุด สู่สายตาสาธารณชนอย่างเป็นทางการในงานมหกรรมยานยนต์ The IAA International Motor Showณ เมืองแฟรค์เฟิร์ต รถสปอร์ตที่มียอดจำหน่ายมากที่สุดรุ่นใหม่นี้ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ Biturbo flatพร้อมด้วยตัวถังที่มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยม และระบบ Porsche Communication Management (PCM)ใหม่ล่าสุด ปอร์เช่จะทำการเปิดตัวรถสปอร์ตรุ่นนี้อย่างเป็นทางการสู่สาธารณชนเป็นครั้งแรกที่งานแถลงข่าว ณ บูธ ปอร์เช่ Hall3 เวลา 11:05 นาฬิกา (CET)วันที่ 15 กันยายน 2015 โดยสามารถเลือกรับชมได้ 2 ภาษานั่นคือภาษาเยอรมัน หรืออังกฤษผ่าน http://porsche.gomexlive.com/.

          เครื่องยนต์ใหม่ล่าสุดของ 911 คาร์เรร่า (911 Carrera) จะออกมาสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการรถสปอร์ตทั้งเรื่องของประสิทธิภาพ สมรรถนะของเครื่องยนต์ ความสุนทรีย์ในการขับขี่ และการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งต้องขอบคุณประสบการณ์ที่มีมายาวนานกว่า 40 ปีของเครื่องยนต์แบบ Turbocharged ที่ใช้ทั้งในสนามแข่งมอเตอร์สปอร์ตและรถสายการผลิต โดยพละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดของ 911 คาร์เรร่า (911 Carrera) อยู่ที่ 370 แรงม้า (272 กิโลวัตต์) และ 911 คาร์เรร่าเอส (911 Carrera S) อยู่ที่ 420 แรงม้า (309 กิโลวัตต์) ซึ่งทั้ง 2 รุ่นมีพละกำลังเครื่องยนต์เพิ่มขึ้นอีก 20 แรงม้า (15 กิโลวัตต์)

โดยมีไฮไลต์ดังนี้

1. จุดเด่นภายนอก

            - ไฟหน้าที่มาพร้อมกับไฟ Daytime 4 ดวง (Four point daytime running lights)

            - ไฟเบรกใหม่แบบ Daytime 4 ดวง (Four point daytime brake lights)

 

2. จุดเด่นภายใน

            - ระบบ Porsche Communication Management พัฒนาใหม่ ง่ายต่อการใช้งานมากขึ้น

            - ฟังก์ชั่นการค้นหาเส้นทางแบบออนไลน์

            - สามารถควบคุมด้วยเสียง (Voice Control) และสัมผัสผ่านหน้าจอ 7 นิ้ว

 

3. เครื่องยนต์ Bi-turbo charging ใหม่ล่าสุด

            - เครื่องยนต์ขนาด 3 ลิตร ที่ประหยัดน้ำมันมากขึ้น และปล่อย CO2 น้อยลง

            - แรงม้าเพิ่มขึ้น 20 แรงม้า (15 กิโลวัตต์)

            - แรงบิดเพิ่มมากขึ้น 60 นิวตันเมตร

 

4. ระบบเกียร์ PDK ทำงานร่วมกับ Sport Chrono Package (อุปกรณ์เสริม)

            - โหมด Switch on พวงมาลัย ปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้ 4 ระดับ คือ Normal, Sport, Sport Plus และ Individual (Optional)

            - Sport Response button ระบบขับเคลื่อนเพื่อเร่งเครื่องยนต์ให้ได้มากสุด เช่น ใช้ในการขึ้นแซง (Optional)

 

5. ระบบ Active rear-axle steering ใหม่ ระบบเลี้ยว 4 ล้อ (Optional)

            - เพิ่มเสถียรภาพในการเปลี่ยนช่องทาง หรือเลี้ยวโค้งด้วยความเร็วสูง

           

6. ระบบช่วยเหลือใหม่ล่าสุด

            - Automatic speed control (ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ)

            - Adaptive cruise control

            - Lane change assistant (ระบบช่วยเหลือในการเปลี่ยนช่องทาง)

            - Post-collision braking system (ระบบหยุดวงจรไฟหรือเครื่องยนต์ เมื่อเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้หรือความเสียหายหลังเกิดการชน)

 

7. สีภายนอก 4 สีใหม่ มาพร้อมให้ท่านเลือกสรร ดังนี้

Lava Orange, Miami Blue, Graphite Blue Metallic และ Night Blue Metallic

 

Visitors: 878,526